นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ความคืบหน้าการดำเนินการตรวจสอบและระงับการเผยแพร่ข้อมูลผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต ที่ส่งผลกระทบอันอาจทำลายความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีของประชาชน ได้มีรายงานตรวจสอบผลการระงับการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เหมาะสมตามคำสั่งศาลในช่วงระหว่างวันที่ 1 พ.ค. - 9 ก.ค. พบว่ามีเว็บไซต์ที่ถูกปิดตามคำสั่งศาลมีจำนวนลดลงอย่างมาก โดยเพจในเฟสบุ๊กที่มีคำสั่งศาล 1,471 ยูอาร์แอล มีการดำเนินการปิด 156 ยูอาร์แอล ,เพจในยูทูปทีมีคำสั่งศาล 622 ยูอาร์แอล มีการปิดไป 9 ยูอาร์แอล
เมื่อทำการตรวจสอบสมาคมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตประเทศไทย (ไอเอสพี) แจ้งว่าเนื่องจากปัจจุบันมีช่องทางในการส่งคำสั่งศาลไปยังเฟสบุ๊กและยูทูปหลายช่องทาง คือ ส่งโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ทำให้เฟสบุ๊กและยูทูปอาจเกิดความสับสน สำนักงาน กสทช. จึงเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาโดยเมื่อกระทรวงดิอี และปอท. ส่งสำเนาคำสั่งศาลไปยังเฟสบุ๊กและยูทูปแล้วให้ส่งสำเนาคำสั่งศาลมายังกสทช.เพื่อส่งต่อให้สมาคมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตดำเนินการประสานกับเฟสบุ๊กและยูทูปอีกทางหนึ่ง โดยกสทช.ได้ขอให้กระทรวงดีอีและปอท. ส่งคำสั่งศาลที่มีล่าสุดมาที่สำนักงานฯ ภายในวันที่ 17 ก.ค.จากนั้น กสทช.จะเชิญจะสมาคมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตประเทศไทย (ไอเอสพี) และผู้ให้บริการบริการอินเทอร์เน็ตเกตเวย์ระหว่างประเทศ (ไอไอจี) มาร่วมประชุมและรับคำสั่งศาลที่กสทช.ในวันที่ 18 ก.ค. ทั้งนี้เชื่อว่าด้วยการดำเนินการประสานทั้งสองทางจะช่วยให้การระงับการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เหมาะสมมีประสิทธิภาพมากขึ้น