นักบริหารเงินจากธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.59/61 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.55/59 บาท/ดอลลาร์
ช่วงเย็นนี้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับช่วงเช้า โดยมีการรีบาวด์ขึ้นตั้งแต่ในช่วงบ่าย ซึ่งระหว่างวันเงินบาท แข็งค่าสุดที่ระดับ 33.56 บาท/ดอลลาร์ และอ่อนค่าสุดที่ระดับ 33.67 บาท/ดอลลาร์ สำหรับเงินบาทแม้ยังมีทิศทางแข็งค่าต่อ แต่ แนวโน้มอาจจะรีบาวด์ขึ้นไปได้บ้าง
"ดูแล้วตอนนี้เงินบาทยังมีทิศทางที่แข็งค่าต่อ แต่ก็มีโอกาสจะทำ technical rebound ได้ หลังจากที่ลงต่อเนื่องมา หลายวันแล้ว" นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.60 - 33.70 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.20/23 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 112.20 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1550 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1520 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,571.52 จุด ลดลง 2.57 จุด (-0.16%) มีมูลค่าการซื้อขาย 38,186 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,341.32 ลบ.(SET+MAI)
- ผู้อำนวยการสำนักงานดูแลเสถียรภาพทางการเงินของธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับ
คณะกรรมการชุดใหม่นี้จะให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลและป้องกันความเสี่ยงเชิงระบบ เพื่อสร้างหลักประกันว่า การ พัฒนาระบบการเงินของจีนจะดำเนินไปอย่างราบรื่น และช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจที่แท้จริงของจีน
โดยรัฐบาลจีนได้ประกาศจัดตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษดังกล่าวขึ้นภายใต้การดูแลของคณะมนตรีแห่งรัฐ (State Council) ในระหว่างการประชุมคณะทำงานภาคการเงินแห่งชาติซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันและสิ้นสุดลงในวันเสาร์ที่ผ่านมา
- ธนาคารกลางจีน อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบการเงินมูลค่า 2 แสนล้านหยวน (ราว 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในวันนี้
- สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของอังกฤษปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือน
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ทวีตข้อความว่า พรรครีพับลิกันควรยกเลิกกฎหมายประกันสุขภาพฉบับ
- นักลงทุนรอดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักลงทุน
ต้องการหาสัญญาณบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางทั้งสองแห่งมีแนวโน้มที่จะปรับนโยบายการเงินในอนาคตหรือไม่