นางจูดี้ เบน ผู้อำนวยการบริหารหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย เปิดเผยในงานสัมมนา “การปฏิรูปภาษีสรรพสามิต : ผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจในไทย" จัดโดยหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (AMCHAM) ว่า การปฏิรูปภาษีสรรพสามิตของไทยให้เป็นไปตามหลักสากลสร้างความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันกันได้อย่างเท่าเทียม เช่น การเปลี่ยนฐานการเก็บภาษีจากราคาหน้าโรงงาน หรือ ราคาสำแดงนำเข้า มาเป็นราคาขายปลีกแนะนำ เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ยังมีภาคเอกชนบางส่วนที่ยังกังวลเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติตามกรอบกฎหมายสรรพสามิตใหม่ ซึ่งต้องการให้รัฐบาลเร่งทำความชัดเจนในส่วนนี้ เพื่อให้เอกชนสามารถตัดสินใจวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตใหม่จะมีผลบังคับใช้กลางเดือน ก.ย.60 ซึ่งได้ใช้เวลาดำเนินการกว่า 1 ปีครึ่งโดยหารือร่วมกับภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการออกกฎหมายลูก ซึ่งการเก็บภาษีอัตราใหม่จะไม่ส่งผลให้ภาระภาษีเพิ่มขึ้นในช่วงแรก เพราะวัตถุประสงค์ในการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการเก็บภาษีไม่ได้หวังเก็บรายได้เพิ่มขึ้น
รมช.คลัง กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีกฎหมายใหม่บังคับใช้ซึ่งจะเป็นผลดีกับเศรษฐกิจไทยอีก ได้แก่ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐที่จะมีผลบังคับใช้เดือน ส.ค. นี้ และ พ.ร.บ.ศุลกากรใหม่มีผลบังคับใช้เดือน พ.ย. 2560 ซึ่งจะทำให้การค้าการลงทุน เกิดความโปร่งใส เป็นธรรมกับผู้ประกอบการทุกฝ่ายทั้งในและนอกประเทศ