นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง ในฐานะรักษาการผู้ว่าการ การถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวภายหลังร่วมหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และตัวแทนกลุ่มชุมชน โดยมีนายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม เป็นประธานว่า ได้รับทราบปัญหาของชาวบ้านในจังหวัดนครราชสีมาถึงผลกระทบจากโครงการถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางจิระ ที่มีเส้นทางผ่านตัวเมืองโคราช จึงเสนอได้ให้กระทรวงคมนาคมปรับงานก่อสร้างทางเป็นทางยกระดับ แต่ทาง รฟท.เห็นว่า การปรับเส้นทางจากทางคู่เป็นทางยกระดับ จะต้องทำทางยกระดับเป็นระยะทางประมาณ 6-7 กม. เพราะต้องยกระดับสถานีจิระไปด้วย เนื่องจากอยู่ใกล้กัน และมีทางแยกไปทางอีสานเหนือและอีสานใต้ แต่การก่อสร้างเป็นทางยกระดับจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นหลายพันล้านบาท และหากมีการปรับแบบจะทำให้กรอบเวลาประมูลโครงการต้องเลื่อนออกไป เพราะต้องมาปรับแบบใหม่และต้องจัดทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม(EIA) อย่างไรก็ตามจะหารือกันกรณีดังกล่าวอีกครั้งในวันที่ 25 ก.ค.นี้เพื่อหาข้อยุติร่วมกัน
ด้านนายวิเชียร จันทรโนทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การขอปรับแบบโครงการรถไฟทางคู่ดังกล่าวเป็นทางยกระดับนั้นเป็นความต้องการของชุมชนชาวโคราช ทั้งชุมชนเทศบาลนครราชสีมา และชุมชนเทศบาลสี่คิ้ว โดย รฟท.จะลดจุดข้ามเหลือ 9 จุด จาก 15 จุด จะยิ่งทำให้ปริมาณจราจรในตัวเมืองนครราชสีมายิ่งหนาแน่น
ส่วนนายกิตติพงศ์ พงศ์สุรเวท รองประธานหอการค้านครราชสีมา กล่าวว่า การออกแบบโครงการรถไฟทางคู่ดังกล่าวจะทำให้ทางรถไฟที่วิ่งผ่านตัวเมืองแยกชุมชน 2 ฝั่งที่มีฝั่งชุมชนอยู่ในพื้นที่กองทัพบก และอีกฝั่งเป็นชุมชนใกล้จวนผู้ว่าฯ ข้าราชการ มีตลาด และห้างสรรพสินค้า จะทำให้ประชาชนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ผู้ค้าขายก็จะได้รับผลกระทบจากโครงการนี้
อนึ่ง โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-จิระ มี 2 สัญญา คือ 1.ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร วงเงิน 7.72 พันล้านบาท และ 2.ช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางจิระ วงเงิน 7.06 พันล้านบาท ทาง รฟท.ได้เปิดขายเอกสารประกวดราคาแล้ว และจะให้ยื่นซองเอกสารประกวดราคาในวันที่ 11 ส.ค.นี้