นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.67 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เปิดตลาดเช้าที่ 33.61 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากมีแรงซื้อดอลลาร์เข้ามา ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 33.59- 33.68 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดรอดูผลประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)คืนนี้
"บาทอ่อนค่าจากช่วงเช้าตามแรงซื้อดอลลาร์ ส่วนตัวเลขส่งออกที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศออกมาดีแต่กลับไม่มีผลต่อค่า เงินบาทในวันนี้ ตลาดน่าจะรอดูผลประชุม ECB" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.55-33.75 บาท/ดอลลาร์
- เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ 112.36 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 111.83 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1500 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1524 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,575.28 จุด ลดลง 0.57 จุด, -0.04% มูลค่าการซื้อขาย 41,763.05 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,250.74 ล้านบาท(SET+MAI)
- นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยืนยันว่าค่าเงินบาทแข็งค่าเป็นไปในทิศทางเดียว
กับค่าเงินในภูมิภาค ไม่ได้แข็งค่าเฉพาะค่าเงินบาท โดยปัจจัยมาจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่
เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเกิดความไม่มั่นใจในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่อาจต้องชะลอออกไป โดยผู้ส่งออกต้องประเมิน
สถานการณ์และป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นเรื่องปกติในการทำธุรกิจกับต่างประเทศ
- ธปท.จะติดตามแนวโน้มหนี้เสียของธนาคารพาณิชย์อย่างใกล้ชิด แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างชัดเจน
โดย ธปท.ได้ปรับประมาณการขยายตัวเศรษฐกิจไทยในปี 60 และ 61 ไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ก็ยอมรับว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่
กระจายตัวไปทั่วทุกภาค เนื่องจากมีบางกลุ่มธุรกิจยังได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวก่อนหน้านี้ เห็นได้จากการเพิ่มขึ้น
ของหนี้เสียในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ในไตรมาส 2/60 ที่ปรับตัวสูงขึ้นบ้าง
- ผู้ว่าธปท. เปิดเผยถึงการปรับเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อรายย่อยที่ไม่มีหลักประกัน รวมทั้งการควบคุมสินเชื่อบัตรเครดิต
จะประกาศลงราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่สัปดาห์หน้า ซึ่งที่ผ่านมาได้เห็นชอบในหลักการไปทั้งหมดแล้ว โดยเกณฑ์ควบคุม
ใหม่นี้จะไม่มีผลย้อนหลังกับลูกค้าที่ขอสินเชื่อไปก่อนหน้านี้
- นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า แนวโน้มเงินบาทที่แข็งค่ายังไม่กระทบภาพรวมเศรษฐกิจ เนื่องจากผู้
ประกอบการ โดยเฉพาะรายใหญ่ได้มีการเตรียมพร้อมรับมือความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ ไว้แล้ว แต่ยอมรับว่าผู้ประกอบการอุตสาหกรรม
ขนาดกลางและเล็ก (SME) ที่ยังมีการทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่มากนัก
- กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน มิ.ย.60 การส่งออก มีมูลค่า 20,282 ล้าน
เหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 11.7% จากตลาดคาดโต 7.9-8.2% ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 18,365 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว
13.7% ส่งผลให้ดุลการค้า มิ.ย. เกินดุล 1,917 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงตัวเลขการส่งออกเดือน มิ.ย.60 ที่ขยายตัว 11.7%ว่า ตัวเลข
ที่ออกมาเมื่อเฉลี่ย 3 เดือนขยายตัวประมาณ 10% ถือว่าเป็นตัวเลขที่ดี และเชื่อว่าแนวโน้มการส่งออกที่ดีขึ้นจะไม่ทำเศรษฐกิจทรุดตัว
ลงไป แต่ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยภายในเรื่องราคาสินค้าเกษตร การใช้จ่ายและการลงทุนด้วย
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ปรับประมาณการมูลค่าการส่งออกทั้งปี 60 ขยายตัว
ที่ 3.5% จากเดิมที่ 2.5% โดยได้รับแรงสนับสนุนจากเศรษฐกิจคู่ค้าหลักทั้งสหรัฐฯ ยูโรโซน ญี่ปุ่น และจีน ที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น
ตลอดปีนี้ และนโยบายทางการค้าของสหรัฐฯ ที่มีท่าทีประนีประนอมมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมความเชื่อมั่นให้กับการค้าและการลงทุนทั่ว
โลก และส่งผลต่อเนื่องถึงความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมหลักจากไทยให้ฟื้นตัวได้ในระยะต่อไป
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY)คงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อทั้งปีที่ 6-8% เนื่องจากคาดว่าแนวโน้มช่วงที่เหลือ
ของปีนี้เศรษฐกิจจะยังคงขยายตัวต่อเนื่อง และทั้งปีคาดว่าจะขยายตัว 3.4% ปัจจัยหลักมาจากการขยายตัวของภาคการส่งออก การ
ท่องเที่ยว และการใช้จ่ายของภาครัฐ ขณะที่การลงทุนและการบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวเพิ่มขึ้น จากสภาพแวดล้อมในการดำเนิน
ธุรกิจที่เกื้อหนุน
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อปีงบประมาณ 2560 ลงเหลือ 1.1% จากระดับ 1.4% รวม
ทั้งประกาศเลื่อนเวลาในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ออกไปเป็นช่วงปีงบประมาณ 2562
- ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมในวันนี้ว่า BOJ จะยังคงดำเนินนโยบาย
ผ่อนคลายสินเชื่อ พร้อมระบุว่า ภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนยังคงมีความกังวลต่อราคาผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น
- นักวิเคราะห์ในตลาดการเงินคาดการณ์ว่า นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจจะไม่ส่ง
สัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมวันนี้
นักลงทุนจับตาการประชุม ECB ในวันนี้อย่างใกล้ชิด ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดการณ์ว่า ECB จะคงนโยบายการ เงินในการประชุมครั้งนี้ รวมทั้งคาดว่า ECB จะทำการประกาศในเดือนก.ย.เกี่ยวกับแผนการลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อน คลายเชิงปริมาณ
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--