"ไทยสมายล์" ตั้งเป้าเพิ่มประสิทธิภาพฝูงบิน เพิ่มความถี่เส้นทางบินในและตปท.-จุดบินใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 20, 2017 18:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยสมายล์ เปิดเผยว่า ในปี 60 จะเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เครื่องบิน (utilization) มากขึ้นโดยตั้งเป้าใช้เครื่องบินเพิ่มเป็น 10 ชม./ลำ/วัน จากปัจจุบันใช้ 9 ชม./ลำ/วัน โดยปัจจุบันมีจำนวนฝูงบิน 20 ลำ เป็นเครื่องบิน แอร์บัส A320 ซึ่งลำที่ 20 เพิ่งรับมอบเมื่อต้นปี 60 และคาดว่าจะคงฝูงบินไว้เช่นนี้ราว 2-3 ปีก่อนที่บมจ.สายการบินไทย (THAI) ซึ่งเป็นบริษัทแม่จะจัดหาเครื่องบินให้ในอนาคต

การเพิ่มจำนวนการใช้เครื่องบินของไทยสมายล์ได้เพิ่มจุดบินใหม่ และเพิ่มความถี่การบินทั้งเส้นทางต่างประเทศและในประเทศโดยการเน้นเพิ่มการบินในเส้นทางต่างประเทศจะมีส่วนสำคัญช่วยได้มาก โดยจุดบินใหม่จะเปิดที่เมืองเกาซง ที่เป็นเมืองรองของไต้หวัน เริ่มทำการบิน 1 ต.ค.นี้ ทำการบิน 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ และได้เปิดจุดบินที่เมืองเวียงจันทน์ ที่สปป.ลาว เมื่อ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำการบิน 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ และเตรียมเปิดจุดบินใหม่ในจีนอีก 2 เมืองในเดือน ธ.ค. นี้

นอกจากนี้ เพิ่มความถี่จุดบินในจีน ได้แก่ เมืองฉงชิ่ง เพิ่มจาก 5 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เป็น 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์, เมือง ฉางซา เพิ่มจาก 5 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เป็น 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ , เมืองเจิ้งโจว เพิ่มจาก 5 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เป็น 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ โดยเริ่มมีผลวันที่ 1 ต.ค.นี้เพื่อต้อนรับวันชาติของจีน ส่วนตลาดอินเดียที่บินไปเมืองขัยปุระ เพิ่มจาก 5 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เป็น 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ และเมืองลัคเนา เพิ่มจาก 4 เที่ยวบิน/สัปดาห์เป็น 5 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ทั้งสองเส้นทางนี้จะเริ่มในวันที่ 29 ต.ค.นี้ที่จะเข้าตารางบินฤดูหนาว ขณะที่เส้นทางในประเทศ โดยเฉพาะอีสาน อาทิ อุบลราชธานี อุดรธานี มีการเพิ่มความถี่เที่ยวบินเช่นกัน

นายวิวัฒน์ คาดว่าปีนี้ อัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) อยุ่ที่ราว 90% โดยปัจจุบันเส้นทางในจีน มี Cabin Factor เกือบเต็ม 100% ส่วนเส้นทางในประเทศก็อยู่ในเกณฑ์สูง โดยตั้งเป้าปีนี้จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากเส้นทางต่างประเทศ เพิ่มเป็น 50% จาก 30%ในปีก่อน ขณะที่รายได้จากเส้นทางในประเทศปรับลดลงเหลือ 50% จาก 70% ในปีที่แล้ว

“ปีนี้ Cabin Factor ของเราพยายามทำให้ได้ 90% โดยสัดส่วนของต่างประเทศจะอยู่ที่ 50% และในประเทศที่ 50% ซึ่งเรามองว่าเป็นสัดส่วนที่ทำให้เรา sustain"นายวิวัฒน์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ