คลังเผยผลจัดเก็บรายได้รัฐ 9 เดือนแรกปีงบ 60 ที่ 1.74 ล้านลบ.สูงกว่าเป้า

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 27, 2017 13:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 (ต.ค.59-มิ.ย.60) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิจำนวน 1,740,349 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 7,639 ล้านบาท หรือ 0.4% เนื่องจากการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ การจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น และการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต สูงกว่าประมาณการ 26,621 23,050 และ 5,216 ล้านบาท หรือ 25.8% 22.2% และ 1.3% ตามลำดับ โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีน้ำมัน และภาษีเบียร์

อย่างไรก็ตาม ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่มีรายได้พิเศษ เช่น การประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรคมนาคม (3G/4G) การรับรู้ส่วนเกินจากการจำหน่ายพันธบัตร (Premium) เป็นรายได้แผ่นดิน การชำระภาษีการพนันของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นต้น ซึ่งหากไม่รวมรายได้พิเศษดังกล่าว การจัดเก็บรายได้ในปีนี้จะขยายตัว 3.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

"ช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 2560 กระทรวงการคลังจะติดตามและกำกับดูแลให้การจัดเก็บรายได้รัฐบาลเป็นไปตามเป้าหมายอย่างใกล้ชิดต่อไป" นายกฤษฎา กล่าว

ผลการจัดเก็บรายได้แยกตามหน่วยงานจัดเก็บสรุปได้ ดังนี้ กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวม 1,289,872 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 48,277 ล้านบาท หรือ 3.6% แต่ยังสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วจำนวน 25,718 ล้านบาท หรือ 2.0% โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 33,499 ล้านบาท หรือ 5.7% แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 2.5% เนื่องจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บในประเทศเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ อย่างไรก็ดีการนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางขยายตัวได้ดีส่งผลให้การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน 9.2%

ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมจัดเก็บได้ 35,714 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 24,986 ล้านบาท หรือ 41.2% ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 18.6% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเฉลี่ยของปี 2559 ต่ำกว่าข้อสมมติฐานที่ใช้ในการทำประมาณการ ทำให้กำไรสุทธิที่ต้องเสียภาษีลดลง

ภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 19,636 ล้านบาท หรือ 5.2% สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 6.4% เป็นผลจากการจัดเก็บภาษีกำไรสุทธิ (ภ.ง.ด.50) และภาษีจากค่าบริการและจำหน่ายกำไร (ภ.ง.ด. 54) ที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ

ในส่วนของกรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 420,393 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 5,216 ล้านบาท หรือ 1.3% สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 7.2% โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย ได้แก่ ภาษีน้ำมันจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 16,275 ล้านบาท หรือ 11.1% สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 25.2% เนื่องจากการจัดเก็บภาษีน้ำมันเบนซินที่สูงกว่าประมาณการ การปรับเพิ่มอัตราภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่น และการจัดเก็บภาษีน้ำมันหล่อลื่น นอกจากนี้ภาษีเบียร์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 2,940 ล้านบาท หรือ 4.6% ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 0.5%

ด้านกรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 77,855 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 11,645 ล้านบาท หรือ 13.0% ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 8.4% เป็นผลจากการจัดเก็บอากรขาเข้าต่ำกว่าเป้าหมายจำนวน 12,443 ล้านบาท หรือ 14.2% ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 9.5% เนื่องจากการใช้สิทธิพิเศษภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและผลกระทบจากการปรับโครงสร้างภาษีศุลกากร ระยะที่ 2 ทั้งนี้ มูลค่าการนำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐและเงินบาทในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 ขยายตัว 11.7% และ 10.0% ตามลำดับ โดยสินค้าที่จัดเก็บอากรขาเข้าได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ยานบกและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ประกอบ เครื่องจักรและเครื่องใช้กล ของทำด้วยเหล็กหรือเหล็กกล้า และพลาสติก

รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้รวม 129,607 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 26,621 ล้านบาท หรือ 25.8% สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 26.6% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการนำส่งรายได้ที่ค้างนำส่งจากปีก่อนหน้า โดยรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้สูงกว่าประมาณการ 5 อันดับแรก ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล การไฟฟ้านครหลวง โรงงานยาสูบ และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย

ส่วนหน่วยงานอื่น จัดเก็บรายได้รวม 127,090 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 23,050 ล้านบาท หรือ 22.2% ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 47.8% สาเหตุสำคัญมาจากการรับรู้ส่วนเกินจากการจำหน่ายพันธบัตร (Premium) เป็นรายได้แผ่นดิน การนำส่งเงินสภาพคล่องส่วนเกินของกองทุนหมุนเวียน และการนำส่งเงินเหลือจ่ายประจำปี 2559 ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

กรมธนารักษ์จัดเก็บรายได้รวม 8,347 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 2,892 ล้านบาท หรือ 53.0% สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 54.8% โดยเป็นผลมาจากรายได้จากที่ราชพัสดุสูงกว่าประมาณการ 2,473 ล้านบาท หรือ 37.4% สาเหตุมาจากการปรับปรุงค่าเช่าสนามบินของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) การนำส่งรายได้จากการขายที่ราชพัสดุให้กับการท่าเรือแห่งประเทศไทย และการเปิดประมูลให้ใช้ที่ในท่าเรือภูเก็ต นอกจากนี้ รายได้จากการจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 421 ล้านบาท หรือ 65.8%

ด้านการคืนภาษีของกรมสรรพากร จำนวน 220,090 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 9,877 ล้านบาท หรือ 4.3% ประกอบด้วยการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 157,324 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 26,576 ล้านบาท หรือ 14.5% และการคืนภาษีอื่น ๆ (ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์) จำนวน 62,766 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 16,699 ล้านบาท หรือ 36.2%

อากรถอนคืนกรมศุลกากร จำนวน 7,493 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 147 ล้านบาท หรือ 1.9%, การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน 11,415 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 1,604 ล้านบาท หรือ 12.3%, เงินกันชดเชยภาษีสำหรับสินค้าส่งออก จำนวน 12,951 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 925 ล้านบาท หรือ 6.7%, การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตาม พ.ร.บ. กำหนดแผน และขั้นตอนการกระจายอำนาจฯ จำนวน 6 งวด เป็นเงิน 52,519 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 121 ล้านบาท หรือ 0.2%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ