นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้พิจารณาแนวทางการส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ เพื่อพัฒนาและส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติทั้งระบบ ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดหาและการให้บริการ ทำให้ผู้บริโภคได้รับการบริการที่ดีมีคุณภาพในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม โดย กพช.จึงมีมติเห็นชอบหลักการและแนวทางการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ
พร้อมทั้งให้ดำเนินโครงการนำร่องเพื่อทดสอบระบบต่าง ๆ ในระยะที่ 1 และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดแข่งขันเสรีเต็มรูปแบบในอนาคต ได้มอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินการเพื่อเตรียมความพร้อมเป็นผู้จัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) รายใหม่ จากเดิมที่มี บมจ.ปตท. (PTT) เป็นผู้จัดหาเพียงรายเดียว โดยกำหนดปริมาณการจัดหา LNG ไม่เกิน 1.5 ล้านตัน/ปี และเริ่มจัดหาภายในปี 61 โดยให้ใช้หลักเกณฑ์การนำเข้าเช่นเดียวกับ ปตท.
ทั้งนี้ ให้ กฟผ.แยกธุรกิจการจัดหาและจำหน่ายก๊าซออกจากกิจการผลิตไฟฟ้าให้เกิดความชัดเจน พร้อมกำหนดให้ ปตท.แยกธุรกิจท่อส่งก๊าซทางบัญชีออกจากระบบจัดหาและจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้บริหารระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ (Transmission System Operator :TSO) ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ บริหารนโยบายการจัดหาก๊าซธรรมชาติ รวมถึงติดตามอุปสงค์และอุปทานของก๊าซ LNG ให้มีความเหมาะสม
สำหรับการดำเนินการในระยะที่ 2 และ 3 คือระยะเปลี่ยนผ่านจนถึงเปิดเสรีอย่างเต็มรูปแบบ ที่ประชุม กพช.รับทราบในหลักการ และได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปศึกษาการดำเนินงาน และให้นำกลับมาเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) และ กพช.พิจารณาตามลำดับต่อไป
นอกจากนี้ ปตท.รายงานความคืบหน้าการสร้างคลัง LNG ในรูปแบบเรือลอยน้ำ FSRU (Floating Storage Regisification Unit) FSRU 2 พื้นที่ ได้แก่ FSRU ภาคใต้ ขนาด 2 ล้านตัน/ปี ใช้เงินลงทุน 26,000 ล้านบาท และ FSRU ในเมียนมา ขนาด 2 ล้านตัน/ปี ใช้เงินลงทุน 20,000 ล้านบาท
นายทวารัฐ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมกพช.ยังเห็นชอบแนวทางการเปิดเสรีธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เต็มรูปแบบ ตามที่ กบง. ได้มีมติวางแนวทางไว้ เมื่อวันที่ 5 ก.ค.60 โดยให้ยกเลิกการกำหนดราคาโรงแยกก๊าซธรรมชาติ โรงกลั่นน้ำมันและโรงอะโรเมติกส์ ยกเลิกการประกาศราคาขายส่ง ณ คลังก๊าซ เพื่อให้ตลาดก๊าซ LPG มีการแข่งขันอย่างสมบูรณ์ โดยให้ สนพ. และกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ติดตามและรายงานเฉพาะราคาอ้างอิงเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการกำกับดูแลราคาขายปลีกก๊าซ LPG ในประเทศ พร้อมมีกลไกการติดตามสถานการณ์ราคาอ้างอิงการนำเข้าก๊าซ LPG และต้นทุนโรงแยกก๊าซอย่างใกล้ชิดเป็นรายเดือน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.60 เป็นต้นไป
พร้อมเห็นชอบให้ ปตท. สามารถดำเนินธุรกิจคลังก๊าซภายใต้โครงการ LPG Integrated Facility Enhancement (โครงการ LIFE) ในเชิงพาณิชย์ได้