นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยม และติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ของกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ว่า ขอให้ทำโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมให้เกิดการเชื่อมโยง อาทิ โครงการเน็ตประชารัฐไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ในการพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การใช้เทคโนโลยีพัฒนาผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) การพัฒนาตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ การพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขทางไกล ให้เกิดประโยชน์และได้ผลที่เป็นรูปธรรม ให้ประชาชนและผู้ประกอบการใช้บริการได้จริง และขอให้บูรณาการทำงานระหว่างหน่วยภาครัฐและเอกชนให้มีส่วนร่วมในการพัฒนา
นอกจากนี้ ในการทำงานขอให้ร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนโดยย้ำว่า บมจ.ทีโอที บมจ.กสท โทรคมนาคม และไปรษณีย์ไทยมีหน้าที่สำคัญมากในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
"ขอให้เปิดกว้างดูว่าจะเป็นพันธมิตรกับใครได้ ทำในส่วนของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุด ปลายปีนี้ขอให้เกิดความชัดเจน" นายสมคิดกล่าว
สำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับการเป็น ASEAN Digital Hub อาทิ การวางเคเบิ้ลใต้น้ำซึ่งจะมีการลงทุนเพิ่มในการวางสายจากสิงคโปร์ไปฮ่องกง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้คำนึงถึงประโยชน์และความสามารถในการแข่งขัน
ส่วนโครงการ Digital Park ซึ่งอยู่ระหว่างการทำมาสเตอร์แพลน รองนายกรัฐมนตรีได้แนะนำให้ทำแผนลงรายละเอียดให้ชัดเจนว่าบริษัทที่จะเข้ามาลงทุนจะอยู่ในพื้นที่ใดบ้าง โดยขอให้มีสิ่งปลูกสร้างและความชัดเจนของพื้นที่โครงการเกิดขึ้นภายใน 1 ปี เพื่อให้บริษัทต่างประเทศเกิดความมั่นใจที่จะมาตั้งสำนักงาน
"ขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยกันพัฒนาขีดความสามารถเทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญกับระบบเศรษฐกิจและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อาทิ สมาร์ทซิตี้ ,Internet Of Thing หรือ IOT, Big Data ภาครัฐ, การใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการทำธุรกิจ โดยขอให้มีความคืบหน้าในการรองรับการมาของเทคโนโลยี และการวางยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาประเทศ"นายสมคิด กล่าว