เรือตรี ทรงธรรม จันทประสิทธิ์ รองผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) สายวิศวกรรม รักษาการแทนผู้อำนวยการ กทท. เปิดเผยถึงการดำเนินงาน ในไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ 2560 (ต.ค.59-มี.ค.60) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนในทุกด้าน โดยเรือเทียบท่าขยายตัวเพิ่มขึ้น 5.23% สินค้าผ่านท่าขยายตัว 6.28% และตู้สินค้าเพิ่มขึ้น 7.46% และคาดว่าเมื่อสิ้นปีงบประมาณ 2560 กทท.จะมีตู้สินค้าผ่านท่าทั้งสิ้นประมาณ 9.12 ล้าน ที.อี.ยู.
สำหรับไตรมาส 2/60 ธุรกิจมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยบวกหลายๆ ด้าน ทั้งการส่งออก การท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนจากภาครัฐ ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นต่อแนวโน้มด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งคาดว่าสถานการณ์กำลังซื้อจะมีการปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยเห็นว่าการบริโภคของภาคเอกชนจะอยู่ในทิศทางที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากรายได้ของเกษตรกรในหลายกลุ่มมีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับ ประกอบกับจะมีเม็ดเงินจากภาครัฐเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ฐานราก ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้กับครัวเรือนในวงกว้างขึ้น ด้านการท่องเที่ยวและการส่งออกยังคงขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การลงทุนโดยรวมของภาคเอกชนกำลังฟื้นตัว โดยมีธุรกิจในภาคการค้าและบริการ เข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ แยกเป็นท่าเรือทั้ง 5 แห่ง โดยเปรียบเทียบกับปีก่อนผลการดำเนินงานให้บริการเรือ สินค้า และตู้สินค้า ดังนี้ ท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.)มีเรือเทียบท่า 1,471 เที่ยว ลดลง 5.16% สินค้าผ่านท่า 10.269 ล้านตัน ลดลง 2.22% ตู้สินค้าผ่านท่า 739,004 ที.อี.ยู. ลดลง 2.06%
ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) เรือเทียบท่า 6,731 เที่ยว เพิ่มขึ้น 7.82% สินค้าผ่านท่า 41.657 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 8.60% ตู้สินค้าผ่านท่า 3.769 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 9.55%
ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน (ทชส.) เรือเทียบท่า 1,248 เที่ยว ลดลง 42.12 % สินค้าผ่านท่า 88.027 ตัน ลดลง 32.82%
ท่าเรือเชียงของ (ทชข.) เรือเทียบท่า 359 เที่ยว ลดลง 16.12% สินค้าผ่านท่า 39.826 ตัน ลดลง 2.79%
และท่าเรือระนอง (ทรน.) เรือเทียบท่า 127 เที่ยว ลดลง 38.94% สินค้าผ่านท่า 26.143 ตัน ลดลง 76.43%