นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง เสียงสะท้อนของ นักธุรกิจ และ นักลงทุนต่างชาติ ต่อ ความเป็นเลิศด้านบรรยากาศการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนและจีน จำนวนทั้งสิ้น 651 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 10 กรกฎาคม – 5 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา พบว่า 5 อันดับแรกของประเทศในภูมิภาคอาเซียนและจีนที่มีความเป็นเลิศด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ดีต่อการลงทุนอันดับหนึ่ง ได้แก่ สิงคโปร์ร้อยละ 30.7 อันดับสองได้แก่ ประเทศจีน ร้อยละ 16.1 อันดับสามได้แก่ ประเทศบูรไน ร้อยละ 10.6 ส่วนประเทศไทยได้อันดับที่สี่ ร้อยละ 10.1 และอันดับห้า ได้แก่ประเทศอินโดนีเซีย ร้อยละ 10.0
สำหรับด้านความเพียงพอของวัตถุดิบ พบว่า อันดับหนึ่งได้แก่ ประเทศจีน ร้อยละ 18.5 อันดับสองได้แก่ประเทศไทย ร้อยละ 11.0 อันดับสามได้แก่ ประเทศเมียนมาร์ ร้อยละ 10.7 อันดับที่สี่ได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย ร้อยละ 10.0 และ อันดับที่ห้าได้แก่ ประเทศลาว ร้อยละ 9.7
ในเรื่อง ความเป็นเลิศด้านแรงงานกรรมกร ผลสำรวจพบว่า อันดับหนึ่งได้แก่ ประเทศเมียนมาร์ ร้อยละ 15.7 อันดับสองได้แก่ ประเทศไทย ร้อยละ 13.9 อันดับสามได้แก่ ประเทศสิงคโปร์ ร้อยละ 13.0 อันดับที่สี่ ได้แก่ จีน ร้อยละ 11.9 และอันดับที่ห้าได้แก่ ประเทศกัมพูชา ร้อยละ 10.1
เผเมื่อถามถึง ความง่ายต่อการลงทุน ผลสำรวจพบว่า อันดับหนึ่ง ได้แก่ ประเทศไทย ร้อยละ 14.9 อันดับที่สองได้แก่ สิงคโปร์ ร้อยละ 14.1 อันดับที่สามได้แก่ ฟิลิปปินส์ ร้อยละ 13.8 อันดับที่สี่ได้แก่ มาเลเซีย ร้อยละ 11.7 และอันดับที่ห้า ได้แก่ จีน ร้อยละ 8.8
นอกจากนี้ เมื่อถามถึง ความเป็นเลิศด้านการส่งเสริมการลงทุน พบว่า อันดับหนึ่งได้แก่ ประเทศไทย ร้อยละ 13.8 อันดับสองได้แก่ ประเทศ ฟิลิปปินส์ ร้อยละ 12.2 อันดับสามได้แก่ สิงคโปร์ ร้อยละ 12.0 อันดับสี่ได้แก่ ประเทศจีน ร้อยละ 11.8 และอันดับห้าได้แก่ มาเลเซีย ร้อยละ 10.5
ที่น่าสนใจคือ ด้านการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของการรณรงค์อนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบว่า อันดับหนึ่ง ได้แก่ ประเทศไทย ร้อยละ 19.4 อันดับสองได้แก่ สิงคโปร์ ร้อยะล 18.1 อันดับสามได้แก่ มาเลเซีย ร้อยละ 12.6 อันดับสี่ ได้แก่ ลาว ร้อยละ 10.2 และ อันดับห้า ได้แก่ จีน ร้อยละ8.1
นอกจากนี้ เมื่อถามถึง การส่งเสริมการท่องเที่ยว พบว่า อันดับหนึ่ง ได้แก่ ประเทศไทย ร้อยละ 27.1 อันดับสอง ได้แก่ สิงคโปร์ ร้อยละ 19.6 อันดับสาม ได้แก่ จีน ร้อยละ 9.3 อันดับสี่ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ ร้อยละ 8.1 และ อันดับห้า ได้แก่ กัมพูชา ร้อยละ 7.9 ตามลำดับ