นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับภาคเอกชน เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) แล้วมีเห็นตรงกันว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยปี 60 จะขยายตัวได้มากกว่า 5% สูงกว่าเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ซึ่งกำหนดไว้ที่ 5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว
สำหรับสินค้าที่การส่งออกขยายตัวได้ดี คือ กลุ่มอาหารและอุตสาหกรรมอาหาร โดยเฉพาะกุ้งสดแช่แข็งและแปรรูป ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป ที่หลายประเทศต้องการนำเข้ามากขึ้น เพราะประสบปัญหาไข้หวัดนกระบาดภายในประเทศ เช่น เกาหลีใต้ รวมทั้งไข่ไก่ที่คาดว่าจะส่งออกได้ดี
ขณะที่กลุ่มยานยนต์ แม้ในช่วงครึ่งปีแรกการส่งออกลดลง เพราะการส่งออกรถกระบะไปตะวันออกกลางหดตัวจากการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบภายใหม่ แต่จากการหารือกับผู้ส่งออก เชื่อว่า แม้ปริมาณการส่งออกยานยนต์จะลดลงแต่มูลค่าไม่ลด เพราะมีการส่งออกรถยนต์ส่วนบุคคล และชิ้นส่วนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาชดเชยการส่งออกรถกระบะที่มีปริมาณลดลง
ในช่วงครึ่งปีหลังปัจจัยเสี่ยงที่จะกระทบต่อการส่งออกโดยเฉพาะค่าเงินบาทแข็งค่านั้น จากการสอบถามเอกชนรายใหญ่ พบว่า ยังสามารถบริหารจัดการได้ แต่ต้องการให้เงินบาทอ่อนค่าลง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางด้านราคาเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
"เรื่องค่าเงินบาท เอกชนอยากให้อ่อนค่าลงมา แต่จากการสอบถามขณะนี้พบว่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมายังไม่กระทบต่อยอดสั่งซื้อสินค้าในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 หากเงินบาทมีเสถียรภาพ ไม่ผันผวนมากเกินไป ก็ไม่น่าจะกระทบต่อภาพรวมการส่งออกไทย" นายสมเด็จ กล่าว