นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า นายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม มีกำหนดนเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 17-19 สิงหาคม 2560 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน
ทั้ง 2 ฝ่ายจะมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงพาณิชย์ไทยกับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า บนพื้นฐานความสนใจและผลประโยชน์เกื้อกูลกันในด้าน 1.การอำนวยความสะดวกทางการค้า 2.การสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการค้า เช่น งานแสดงสินค้า การจับคู่ธุรกิจ และการสนับสนุนธุรกิจในเรื่องการแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้า และสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการประกอบธุรกิจ 3.การพิจารณาใช้มาตรการเยียวยาทางการค้าเท่าที่จำเป็น โดยให้เป็นตามกฎระเบียบขององค์การการค้าโลก 4.การส่งเสริมการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee: JTC) เพื่อเป็นเวทีในการทบทวนปัญหาการค้าและเสริมสร้างความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนสองประเทศ และ 5.การใช้ประโยชน์จากความร่วมมือในระดับภูมิภาคและพหุภาคี เช่น อาเซียน GMS ACMECS และ CLMVT Forum
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า การลงนาม MOU ครั้งนี้จะเป็นการแสดงเจตนารมณ์ในการส่งเสริมความร่วมมือการค้าสองฝ่ายให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เพื่อนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการค้า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2563 รวมถึงผลักดันผลการประชุม JTC ไทย-เวียดนามในระดับนโยบายให้มีผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนสร้างความมั่นใจว่า ไทยจะร่วมมือกับเวียดนามเดินหน้าขยายการค้าและการลงทุนของสองประเทศ
"การกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านเป็นหนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญอย่างมาก และสอดรับกับนโยบายในการเดินหน้าเศรษฐกิจการค้าให้ไทยกับ CLMVT เติบโตไปพร้อมกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" นางอภิรดี กล่าว
ในปี 2559 เวียดนามเป็นคู่ค้าอันดับที่ 7 ของไทยในโลก และอันดับที่ 4 ของไทยในกลุ่มอาเซียน รองจากมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย การค้าของไทยกับเวียดนาม ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2555-2559) มีมูลค่าเฉลี่ยประมาณปีละ 11,170 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 8.83 ต่อปี โดยไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้ามูลค่า 5,003.31 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2560 (ม.ค.-มิ.ย.) การค้าระหว่างไทยกับเวียดนาม มีมูลค่าการค้ารวม 7,575.92 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 18.56 โดยไทยยังคงเป็นเป็นฝ่ายเกินดุลการค้ามูลค่า 2,908.14 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกที่สำคัญไปเวียดนาม ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง เครื่องปรับอากาศและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ ขณะที่สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ น้ำมันดิบ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์