พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดงาน "เกษตรไทยก้าวหน้า ภายใต้ร่มพระบารมี" มหกรรมการเกษตรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ซึ่งรวบรวมสินค้าจากนวัตกรรมทางการเกษตรไว้ จัดโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระหว่างวันที่ 16-20 สิงหาคมนี้ ที่สวนลุมพินี พร้อมเชิญคณะทูตานุทูตกว่า 50 ประเทศเข้าร่วม
การจัดงานดังกล่าว ถือเป็นการแสดงพลังเกษตรกรที่น้อมนำศาสตร์พระราชามาใช้จนเกิดผลสำเร็จจากการทำการเกษตรตามนโยบายรัฐบาล ทั้งการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร และ เกษตรกรรุ่นใหม่ หรือ young smart farmer กว่า 3,000 คน พร้อมมอบโล่รางวัลให้กับแปลงใหญ่ที่มีความโดดเด่นระดับประเทศ ได้แก่ แปลงใหญ่ปาล์มน้ำมันจังหวัดตรัง แปลงใหญ่ข้าวจังหวัดศรีสะเกษ แปลงใหญ่ลำไยจังหวัดน่าน และแปลงใหญ่โคนมจังหวัดสระบุรี
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต้องสร้างความเข้มแข็งจากภายในโดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการสร้างภูมิคุ้มกันและความเข้มแข็งให้แก่ภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรมภาคการผลิตและการบริการ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศสู่ Thailand 4.0 การสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจชุดใหม่ เพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ ไปสู่ Value - Based Economy หรือเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม พร้อมทั้ง การนำพาประเทศก้าวผ่านกับดักรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูงตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยเปลี่ยนจากการเกษตรแบบดั้งเดิมไปสู่การเกษตรสมัยใหม่ที่สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศสู่ประเทศไทย 4.0 ที่เน้นการบริหารจัดการและเทคโนโลยี และเกษตรกรแบบผู้ประกอบการ รวมถึง การพัฒนาเกษตรกรไทยให้เป็น Smart Farmer การพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ให้มีความเข้าใจในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์
นอกจากนี้ รัฐบาลได้มีนโยบายส่งเสริมโครงการเกษตรแปลงใหญ่ในรูปแบบประชารัฐ ซึ่งเป็นการพัฒนาเกษตรกรรายย่อยที่มีอาชีพเดียวกันให้มาร่วมกลุ่มกันเพื่อให้ต่อรองการรวมกลุ่มกันขายและการผลิตสินค้าแปลงใหญ่ การผลิตวางแผนการตลาดเพื่อการนำไปสู่การลดต้นทุนการผลิตที่มีต้นทุนต่ำ ในขณะที่ผลผลิตได้คุณภาพ มีการเพิ่มผลผลิตต่อหน่วย และต่อไร่มากขึ้น ผลผลิตทางการเกษตรมีคุณภาพและมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคมีการจัดการห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสและขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกษตรให้มีตรงตามความต้องการของตลาด
"เข้าใจหัวอกเกษตรกรที่จะต้องก้มหน้าทนร้อน ซึ่งตนเองก็โตมาได้เพราะเกษตรกร ดังนั้นจึงสัญญาว่า จะพาเกษตรกรเดินไปข้างหน้า ภายใต้ร่มพระบารมี และให้ตระหนักถึงบุญคุณของแผ่นดินนี้ ที่ให้ทุกคนมีชีวิต มีครอบครัว มีที่ทำกิน จึงถือเป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ จึงอยากให้ทุกคนยึดมั่นสถาบันหลัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ให้อยู่ในจิตใจ และย้ำว่าทุกคนต้องช่วยกันรักษาแผ่นดินนี้ไว้"
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พร้อมที่จะแก้ปัญหาให้กับเกษตรกร เช่น ที่ดินทำกิน น้ำ การลดต้นทุนการผลิต การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ แต่ทุกอย่างต้องได้รับความร่วมมือจากทุกคนในการสร้างความเข้มแข็ง
"ตั้งแต่วันนี้ ตีโจทย์ให้แตก หาวิธีได้ประโยชน์ และหลุดกับดักรายได้ปานกลาง นำไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง โดยต้องมีภูมิคุ้มกันที่ดี เพื่อไม่ให้รัฐบาลต้องใช้งบประมาณไปเพื่อการอุดหนุน ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาด้านงบประมาณ ทำให้ปัญหาเดิมๆ ก็จะกลับมา" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี ขอให้เกษตรที่ปลูกข้าวเรียนรู้ธรรมชาติ และอย่าสร้างความต้องการเทียมที่จะส่งผลให้มีการผลิตข้าวเกินความต้องการของตลาด ซึ่งจะทำให้ประสบปัญหาราคาตกต่ำ แต่ควรเน้นที่คุณภาพข้าวและการปรับเปลี่ยนระบบการปลูกพืช เป็นเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อลดต้นทุน เพิ่มด้านการต่อรองให้กับเกษตรกร โดยจะต้องมองศักยภาพและนำมาใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด และจะต้องเชื่อมโยงไปยังภาคอุตสาหกรรม ภาคการท่องเที่ยว การศึกษา และการดูแลสิ่งแวดล้อมควบคู่กัน บนพื้นฐานการร่วมกันสร้างความมั่นคงของประเทศ เพราะเป็นปัจจัยที่จะสงเสริมการค้าการลงทุน