บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า การขนส่งสัมภาระภายในท่าอากาศยานนั้น มีกระบวนการที่ต้องผ่านการลำเลียงผ่านจุดให้บริการหลายจุดและมีพนักงานที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก อีกทั้งการเดินทางของผู้โดยสารท่านนี้เป็นการเดินทางผ่าน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสู่ท่าอากาศยานภูเก็ต ซึ่งบริษัทฯ ได้เร่งประสานไปยัง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ของทั้งสองท่าอากาศยาน เพื่อขอดูภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดในเวลาที่สัมภาระจากทั้งสองเที่ยวบินมีการลำเลียงแล้ว ผลเบื้องต้นพบว่าพบผู้ต้องสงสัยเป็นพนักงานของบริษัทภายนอก (Outsource) แห่งหนึ่งที่จัดส่งแรงงานให้บริษัท การบินไทยฯ ซึ่งปฏิบัติงาน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแสดงอาการผิดสังเกต ซึ่งบริษัทฯ จะได้ประสานงานกับบริษัท Outsource ดังกล่าว รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยมาทำการสอบสวนและขยายผลต่อไปซึ่งหากมีความคืบหน้าเป็นประการใดบริษัทฯ จะได้แจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอยืนยันว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับทรัพย์สินของผู้โดยสาร โดยบริษัทฯ มีมาตรการในการควบคุมการขนถ่ายสัมภาระอย่างเคร่งครัด ซึ่งหากพบว่ามีพนักงานผู้ใดกระทำการทุจริตต่อทรัพย์สินของผู้โดยสาร บริษัทฯ จะได้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดทั้งทางวินัยตามระเบียบของบริษัทฯ และดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
อนึ่ง บริษัทฯ จะได้แสดงความรับผิดชอบต่อทรัพย์สินที่สูญหายตามมูลค่าไม่เกินตามที่ได้ระบุไว้บนบัตรโดยสารซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากล