นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ให้คณะกรรมการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ทบทวนกรณีที่บริษัท เบสริน กรุ๊ป จำกัดเข้าร่วมประมูลโครงการรถโดยสารประจำทางที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (เอ็นจีวี) 489 คันรอบใหม่ หลังจากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นซึ่งเข้าร่วมสังเกตุการณ์การประมูลโครงการนี้ตั้งแต่รอบที่แล้ว ได้ทำหนังสือมายังกระทรวงคมนาคมเมื่อวันที่ 2 ส.ค.แสดงความกังวลต่อการที่บริษัท เบสริน กรุ๊ป จำกัด ได้รับการปลดออกจากบัญชีดำของ ขสมก.และสามารถเข้าประมูลโครงการในรอบใหม่
ทั้งนี้ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น ระบุว่าควรจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้าประมูลรอบใหม่อย่างรอบคอบ และยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับราคากลางในการประมูลรอบใหม่ที่ใช้ราคาสุดท้ายที่เบสรินฯ เคยชนะประมูลในครั้งก่อนที่ 3,389 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคากลางถึง 40% โดยมองว่าเป็นราคาต่ำเกินไป ดังนั้น จะทำให้โครงการมีความเป็นไปได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม รมช.คมนาคม กล่าวว่า แม้ว่าราคากลางในรอบใหม่นี้จะมีข้อกังวลว่าต่ำเกินไป แต่เป็นเพราะ ขสมก.ยึดหลักเกณฑ์ของกรมบัญชีกลางที่ให้นำราคาซื้อขายล่าสุดในรอบ 2 ปีมากำหนดเป็นราคากลาง ซึ่ง ขสมก.ตีความว่าราคาที่เบสรินฯเคยเสนอไว้ในการประมูลรอบที่แล้วถือว่าเป็นราคาสุดท้าย
ในบ่ายวันนี้คณะกรรมการบริหารกิจการองค์กร ขสมก.จะมีการประชุมเรื่องโครงการจัดหารถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ก่อนที่วันพรุ่งนี้ (24 ส.ค.) จะเปิดให้ยื่นซองประมูล และจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติที่สามารถยื่นเสนอราคาในวันที่ 1 ก.ย นี้ โดยมีกำหนดเคาะราคาแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) ในวันที่ 8 ก.ย. นี้
อนึ่ง เมื่อวันที่ 7-11 ส.ค.มีเอกชนเข้ามาซื้อซอง 3 ราย คือ บริษัท ไทย เทคโนโลยี แอนด์ เดเวลอปเมนท์ จำกัด, บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด และ กิจการร่วมค้า เจวีซีซี ที่มี บมจ.ช.ทวี (CHO) ร่วมด้วย