ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ทิศทางการท่องเที่ยวของไทยในช่วงที่เหลือของปี 2560 นี้ยังสามารถขยายตัวได้ดี ด้วยบรรยากาศในประเทศที่เอื้อต่อการเดินทางท่องเที่ยว พร้อมกับแผนการรุกตลาดการท่องเที่ยวของไทยจากหน่วยงานภาครัฐที่มีอย่างต่อเนื่อง
โดยตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตในช่วงที่เหลือของปี จะยังเป็นตลาดนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งน่าจะเติบโตในอัตราที่เร่งตัวขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเปรียบเทียบกับฐานที่ต่ำจากการจัดระเบียบทัวร์ศูนย์เหรียญในปีที่ผ่านมา และอีกปัจจัยหนึ่งมาจากกรณีปัญหาระหว่างจีนและเกาหลีใต้ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนยังเลือกเดินทางท่องเที่ยวไปยังจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวอื่นๆ ซึ่งรวมถึงการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย โดยในช่วงครึ่งหลังของทุกปี จะมีช่วงที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมเดินทางท่องเที่ยวคึกคักมากเป็นพิเศษ ได้แก่ ช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน (Summer Vocation) โดยปกติจะเริ่มประมาณต้นเดือนกรกฎาคม – เดือนสิงหาคม
ทั้งนี้ จากข้อมูลเบื้องต้นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – วันที่ 20 สิงหาคม 2560 จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเที่ยวในไทยแล้วประมาณ 1.62 ล้านคน เพิ่มขึ้น 9.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ในช่วงวันหยุดยาววันชาติจีน (เริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 2560) จะเป็นอีกช่วงหนึ่งที่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเป็นจำนวนมาก
จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น ประกอบกับการฟื้นตัวดีกว่าคาดของตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่หนุนการเติบโตของนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในช่วง 7 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงปรับประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยปี 2560 เป็นจำนวน 35.20 ล้านคน เติบโต 8.2% จากปี 2559 (จากเดิมที่คาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 34.15 ล้านคน) ขณะที่คาดว่ารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยจะมีมูลค่าประมาณ 1.81 ล้านล้านบาท ขยายตัว 11.0% จากปี 2559 (จากเดิมที่คาดว่ารายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยจะอยู่ที่ประมาณ 1.79 ล้านล้านบาท)
สำหรับปัจจัยความกังวลต่อทิศทางของค่าเงินบาทที่อาจจะส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวของไทยนั้น ซึ่งตั้งแต่ต้นปี 2560 ที่ผ่านมา จนถึง ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2560 เงินบาทแข็งค่าประมาณ 7.8% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ทิศทางค่าเงินบาทในช่วงที่เหลือของปี 2560 นี้ แม้ยังจะมีความผันผวนไปในทิศทางที่แข็งค่า แต่มองว่าน่าจะยังไม่ส่งผลกระทบต่อทิศทางของจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงที่เหลือของปีนี้ เนื่องจากค่าเงินของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติหลักที่เดินทางมา ท่องเที่ยวในไทยมีการปรับแข็งค่าขึ้นไปในทิศทางเดียวกันกับค่าเงินบาท นอกจากนี้ การตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวยังมีปัจจัยและองค์ประกอบอื่นๆ อีกทั้งประเทศไทยยังมีผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยวที่หลากหลาย กอปรกับการแข่งขันในธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยที่ยังมีความเข้มข้น และผู้ประกอบการบางรายยังใช้กลยุทธ์ด้านราคาเข้ามาดึงดูดให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางเข้าเลือกใช้บริการ
อย่างไรก็ดี การปรับตัวในทิศทางที่แข็งค่าขึ้นของเงินบาทอาจจะมีผลกระทบทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของการท่องเที่ยวไทยลดลงได้ ในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติบางกลุ่มที่มีความอ่อนไหวในเรื่องของราคา และอาจจะมีผลต่อการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าท่องเที่ยวในไทย เช่น กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต่างชาติอิงกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวที่ต้องมีการทำธุรรกรรมกับพันธมิตรธุรกิจที่ต้องอิงกับสกุลเงินตราต่างประเทศ ก็คงจะต้องมีแผนประเมินความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเช่นกัน
อนึ่ง จากรายงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2560 ที่ผ่านมา มีจำนวน 20.41 ล้านคน เติบโต 4.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยสร้างรายได้กระจายลงสู่ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องเป็นมูลค่า 1.03 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน