นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก โดยเชื่อมโยงการค้าระหว่างภาคและขยายต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านของกลุ่มจังหวัดในภาคกลางและภาคตะวันออก เพื่อเป็นการสร้างโอกาสและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับผู้ประกอบการไทยและประเทศเพื่อนบ้านประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
โดยช่วงวันที่ 22-28 ส.ค.นี้ กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน 1 ประกอบด้วย จังหวัดนนทบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี และปทุมธานี ได้จัดงาน "ภาคกลางตอนบน 1 โอกาสแห่งการค้า" ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสต์เกต เพื่อแสดงนวัตกรรมเกี่ยวกับสินค้าที่ผู้ประกอบการในกลุ่มฯ เป็นผู้ผลิต ได้แก่ นวัตกรรมในการป้องกันการรั่วซึมจากท่อน้ำทิ้งต่างๆ นวัตกรรมในการหล่อพระเครื่อง นวัตกรรมการผลิตไม้อัดจากวัสดุเหลือใช้จากการเกษตร นวัตกรรมเตาไร้ควัน นวัตกรรมการผลิต ผลิตภัณฑ์จากเครื่องหนัง นวัตกรรมจากการแปรรูปข้าวเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง รวมทั้งการจัดนิทรรศการเพื่อเผยแพร่การให้บริการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ผ่านแอพพลิเคชั่นจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าของกลุ่มผู้ประกอบการกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบนจำนวน 200 บูธ
ขณะที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกและภาคกลางได้จัดกิจกรรมแสดงและจำหน่ายสินค้าในงาน Chanthaburi : Thailand Product Expo 2017 ณ อาคารแสดงและจำหน่ายสินค้าเกาะเพชร กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ช่วงวันที่ 17-20 ส.ค.ที่ผ่านมา มีการเจรจาเชื่อมโยงธุรกิจการค้า (Business matching) โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือผู้ประกอบการสินค้า OTOP/SMEs สินค้าคุณภาพมาตรฐานส่งออก ผู้ประกอบการจากเครือข่ายภาคเอกชน ได้แก่ หอการค้า เครือข่ายธุรกิจบิสคลับจากกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกและภาคกลาง เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาด เชื่อมโยงการค้าการลงทุน และเพิ่มมูลค่าการค้าในตลาดประเทศเพื่อนบ้าน โดยสินค้าภายในงานที่ได้รับความสนใจจากชาวกัมพูชา 10 อันดับ ได้แก่ 1) ผลิตภัณฑ์สมุนไพร 2) เครื่องสำอาง 3) ผลไม้แปรรูป 4) น้ำปลา 5) กระเป๋าหนังแท้ 6) ผ้าปูโต๊ะยางพารา 7) ขนมขบเคี้ยว 8) ผลไม้สด 9) เครื่องนอน และ 10) ของตกแต่งบ้านชุดเครื่องหนัง รวมยอดจำหน่ายภายในงาน 15.05 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจการค้า (Business Matching) ณ Tonle Chaktomuk Room Hotel Cambodiana ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการ บริษัท ห้างร้านต่างๆ จากประเทศไทย จำนวน 33 ราย และจากกัมพูชา 16 ราย ผลจากการเจรจาธุรกิจ นักธุรกิจไทยและกัมพูชาสามารถตกลงซื้อขายสินค้าระหว่างกันจำนวน 4 คู่ อีกทั้งยังมีคู่ธุรกิจที่ได้ตกลงพัฒนารูปแบบสินค้าเพื่อทำการตลาดในกัมพูชาร่วมกันต่อไป คือ Udommakkaraphol Farm (ผลิตภัณฑ์จากเห็ดหลินจือ จ.ชลบุรี) กับ Mr.Nang SAM, Sales and marketing of KT Stone Depot Co.,Ltd. (Phanom Penh) นับเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของผู้ประกอบการไทย และผู้ประกอบการประเทศเพื่อนบ้าน