นายกฯ ติดตามความคืบหน้าเขตศก.พิเศษ จ.สระแก้ว มอบนโยบายเร่งดึงต่างชาติเข้ามาลงทุน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 28, 2017 18:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานประชุมติดตามความก้าวหน้าของจังหวัดสระแก้วในการเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อรับทราบความคืบหน้าเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว การลงทุนของภาคเอกชนและแนวโน้ม รวมถึงข้อเสนอการบริหารงานศุลกากรเพื่อรองรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว รวมถึงการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว และสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์

ด้านความพร้อมของเขตเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว มีการกำหนดขอบเขตพื้นที่ครอบคลุม 4 ตำบล ใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภออรัญประเทศ และอำเภอวัฒนานคร พื้นที่รวม 332 ตร.กม. ปัจจุบันเปิดบริการให้เอกชนขอรับการส่งเสริมการลงทุนได้แล้ว ส่วนภาพรวมโครงสร้างพื้นฐาน กระทรวง คมนาคมได้ดำเนินการก่อสร้างถนนเพื่อรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ ดังนี้ 1. ก่อสร้างถนนเลี่ยงเมืองอรัญประเทศด้านใต้ แยก ทล.33 ด่านบ้านคลองลึก ระยะทาง 15.425 กิโลเมตร คาดแล้วเสร็จประมาณเดือนสิงหาคม 2561 2.โครงการทางหลวงอรัญประเทศ - ชายแดนไทย/กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน - สตึงบท) ระยะแรก ก่อสร้างสะพานคลองพรมโหด และปรับปรุงถนนเชื่อมด่านคลองลึก ระยะที่ 2 ก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองอรัญประเทศ 4 ช่องทาง โดยทั้งสองโครงการคาดจะแล้วเสร็จภายในปี 2562

ในส่วนความเชื่อมโยงกับกัมพูชา ได้ดำเนินการก่อสร้างทางรถไฟช่วงชุมทางแก่งคอย - คลองสิบเก้า - สุดสะพานคลองลึกทางฝั่งไทยสร้างเสร็จแล้ว ทางฝั่งกัมพูชาจะสร้างเสร็จภายในปี 2561 พร้อมสามารถเปิดบริการเดินรถข้ามพรมแดนไทย - กัมพูชาได้ ในปี 2561 โดยอนุญาตให้รถบรรทุกและรถโดยสารไม่ประจำทาง รวมจำนวน 150 คัน ในการเดินรถข้ามพรมแดนระหว่างกัน รวมทั้งพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรสตึงบทและถนนเชื่อมโยงไปยังถนนหมายเลข 5 ราชาณาจักรกัมพูชา คาดจะแล้วเสร็จภายในปี 2563

ส่วนการบริหารงานด่านศุลกากรอรัญประเทศ จะดำเนินงานตามนโยบายของคณะกรรมการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว โดยใช้กฎระเบียบของกรมศุลกากรให้ผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามภายใต้การควบคุมดูแลของด่านศุลกากรอรัญประเทศ และให้เพิ่มโครงสร้างบริหารงานออกมาอย่างชัดเจนเพื่อกำกับดูแลการใช้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้เป็นไปตามนโยบาย กฎ ระเบียบของเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พร้อมยกระดับด่านเป็นสำนักงานศุลกากรอรัญประเทศเพื่อให้เหมาะกับพื้นที่และขอบเขตการปฏบัติงานต่อไป

สำหรับความคืบหน้าด้านแรงงานต่างด้าวหลังจากที่รัฐบาลประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 ผู้ประกอบการรวมถึงแรงงานต่างด้าวมีความตื่นตัวจดทะเบียนให้ถูกต้องตามพระราชกำหนดฯ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการขึ้นทะเบียนแล้ว 544 ราย มีแรงงานต่างด้าวขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแล้วจำนวน 1,555 คน ผ่านการคัดกรองแล้ว 1,260 คน ทั้งนี้ จังหวัดสระแก้วมีแรงงานต่างด้าวที่เดินทางไป-กลับแต่ละวันจำนวน 35,471 คน ส่วนการแก้ไขปัญหาสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ทางจังหวัดได้ทำลายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในปี 2560 มูลค่ามากกว่า 150 ล้านบาท

นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการต่างประเทศ บีโอไอ และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกันประชาสัมพันธ์ให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนให้มากขึ้น รวมทั้งให้เตรียมความพร้อมรองรับการลงทุนในทุก ๆ ด้าน เพื่อดึงดูดนักลงทุน เพราะการลงทุนต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก รวมทั้งช่วยกันสร้างความเข้าใจ สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน ซึ่งเมื่อมีการลงทุนในประเทศจำนวนมาก ก็จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและรายได้ของประเทศตามมา พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายในการเอื้อประโยชน์ให้กับใคร แต่ต้องการให้เกิดการลงทุนภายในประเทศ ทุกอย่างต้องดำเนินการตามกฎหมาย รวมถึงให้ช่วยกันสร้างความเข้าใจต่อต่างประเทศ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อกระบวนการตามกฎหมายของไทย

ในเรื่องของแรงงานต่างด้าว นายกรัฐมนตรีฝากถึงผู้ประกอบการและแรงงานต่างด้าวให้ขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งถ้าหมดระยะผ่อนผันแล้ว จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และจะไม่มีการผ่อนผันอีก

ในส่วนเรื่องสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ถูกจับตาจากหลายประเทศ จะต้องดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจังให้เป็นรูปธรรมให้ได้ และจะต้องดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่ละเมิดลิขสิทธิ์ หากเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องดำเนินด้วยจะไม่มีการละเว้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ