นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-ภูฏาน ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 30-31 ส.ค.นี้ ว่า เป็นเวทีหารือระดับสูงระหว่าง รมว.พาณิชย์ของไทย กับ รมว.เศรษฐการของภูฏาน เพื่อสานความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกัน ต่อเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-ภูฏาน ครั้งที่ 1 ณ กรุงทิมพู ราชอาณาจักรภูฏาน เมื่อเดือน ส.ค.ปีก่อน
"การประชุมครั้งนี้นอกจากจะเป็นการเสริมสร้างสัมพันธไมตรีอันดีของทั้งสองประเทศที่มีความใกล้ชิดกันแล้ว ยังจะเป็นการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน ตลอดจนความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ทั้งสองฝ่ายจะสามารถเอื้อต่อกันได้ อาทิ การท่องเที่ยว การเกษตร และการพัฒนาสินค้าหัตถกรรม" นางอภิรดี กล่าว
ภูฏานเป็นประเทศขนาดเล็ก ไม่มีทางออกทะเล มีประชากรประมาณ 7 แสนคน และมีเศรษฐกิจที่เน้นพึ่งพาเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอินเดีย แต่สินค้าไทยก็เป็นที่ต้องการและชื่นชอบของคนภูฏาน ทั้งนี้ ภูฏานเป็นคู่ค้าอันดับที่ 8 ของไทยในตลาดเอเชียใต้รองจาก อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ ศรีลังกา มัลดีฟส์ เนปาล และอัฟกานิสถาน การค้าระหว่างไทยกับภูฏานในปี 2559 มีมูลค่าเพียง 24.37 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่มีอัตราเติบโตกว่า 110.73% โดยไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้ามาโดยตลอด และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2555-2559) การค้ารวมมีมูลค่าเฉลี่ย 15.49 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว่า 74.14% ต่อปี
สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปภูฏาน (ปี 2559) ได้แก่ ผ้าผืน รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลี อาหารสำเร็จรูปอื่นๆ อัญมณีและเครื่องประดับ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป เม็ดพลาสติก เครื่องตัดต่อและป้องกันวงจรไฟฟ้า และเครื่องนุ่งห่ม ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญของไทยจากภูฏาน (ปี 2559) ได้แก่ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ สินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ สินค้าทุนอื่นๆ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ไม้ซุงและไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ สิ่งพิมพ์ และเสื้อผ้าสำเร็จรูป