พลังงาน เล็งออกประกาศเปิดเสรีขายไฟฟ้าสำหรับสถานีชาร์จรถ EV หลังคาดสิ้นปีนี้มีทั้งหมด 200 แห่ง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 30, 2017 15:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังการเป็นประธานเปิดงานสัมมนา “Create The Future Energy : อนาคตพลังงานไทย 4.0"ว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานเตรียมออกประกาศเปิดเสรีขายไฟฟ้าสำหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Charging Station) หรือสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งผู้ประกอบการที่จดแจ้งกับทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) แล้วสามารถขายไฟฟ้าได้แบบเสรี โดยกระทรวงไม่ได้เข้าไปควบคุมค่าไฟปลายทาง แต่สิ่งที่กระทรวงพลังงานควบคุมคืออัตราค่าไฟ (เนื้อค่าไฟ) ที่การไฟฟ้าขายให้กับเจ้าของสถานีชาร์จที่กำหนดอัตราเดียวกับอุตสาหกรรมขนาดเล็ก

สำหรับเป้าหมายสถานีชาร์จไฟฟ้าสิ้นปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 200 แห่ง มาจากการส่งเสริมของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ที่มีเป้าหมายส่งเสริม 150 แห่ง, สถานีชาร์จของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) 10 แห่ง, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 5-6 แห่ง, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 1-2 แห่ง และบมจ.ปตท. (PTT) 20 แห่ง เพื่อรองรับจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้น แม้ในปัจจุบันจะยังมีไม่มากนัก

ขณะที่ระบบการชาร์จไฟในสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า อาจใช้เป็นระบบบัตร เช่น สถานีชาร์จของ กฟน. เป็นระบบบัตรที่จะเป็นบิลค่าไฟฟ้าตามชื่อเจ้าของรถ ปัจจุบันปตท. ก็เตรียมทำระบบบัตรเช่นกัน

สำหรับการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า ล่าสุดกระทรวงพลังงานมีโครงการนำร่องเปลี่ยนรถตุ๊กตุ๊ก เป็นรถไฟฟ้า 100 คัน ทั้งรถตุ๊กตุ๊ก สาธารณะและของบุคคล สามารถนำรถตุ๊กตุ๊ก เก่ามาแลกคันใหม่ที่เป็นระบบไฟฟ้าได้ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ผลิตรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า 9-10 ราย ขณะที่กองทุนอนุรักษ์ฯ พร้อมสนับสนุนงบประมาณเปลี่ยนรถตุ๊กตุ๊กทั่วประเทศ 20,000 คัน เป็นรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าภายใน 5 ปี

ทั้งนี้ ยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกในการใช้พลังงาน ลดการพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิงและเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อม ได้บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการพัฒนาและส่งเสริมให้เกิดการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทย ซึ่งแบ่งเป็น 4 ระยะ ระยะที่ 1 (ปี 59-60) เตรียมความพร้อม ระยะที่ 2 (ปี 61-63) ขยายผลในกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ และเตรียมความพร้อมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคล ระยะที่ 3 (ปี 64 เป็นต้นไป) ขยายผลไปสู่การส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคล และระยะที่ 4 (ปี 79 เป็นต้นไป) คาดว่าจะมีรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาแทนที่รถใช้น้ำมันอย่างเต็มที่ เป้าหมาย 1.2 ล้านคัน

โดยปัจจุบันการดำเนินการอยู่ในระยะที่ 1 ศึกษาการใช้งาน EV และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ศึกษาโครงสร้างอัตราค่าไฟของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อรองรับกลุ่มรถโดยสารสาธารณะและรถส่วนบุคคล กำหนดรูปแบบและมาตรฐานของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า การขออนุญาตเป็นผู้จำหน่ายไฟฟ้า ตลอดจนการจัดทำหลักเกณฑ์การจดทะเบียน EV ที่จะเชื่อมต่อกับระบบจำหน่ายไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้มีความก้าวหน้าไปมาก มีการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า สำหรับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนเกิดขึ้นจำนวนมาก

นอกจากนี้ โครงการภายใน Energy 4.0 ในด้านอื่น ๆ ก็เดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสนับสนุนโครงการผลิตไฟฟ้า SPP Hybrid ที่ช่วยลดความผันผวนและสร้างความมั่นคงให้ระบบไฟฟ้ารูปแบบ Firm และโครงการสนับสนุนการออกแบบเมืองอัจฉริยะ (Smart Cities) และการพัฒนาระบบ Smart Grid


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ