สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนก.ค.60 อยู่ที่ 109.16 ขยายตัว 3.73% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) ส่งผลให้ MPI 7 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัว 0.62% ส่งสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างชัดเจน
นายวีรศักดิ์ ศุภประเสริฐ รองผู้อำนวยการ สศอ. เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ประจำเดือนก.ค.ที่ขยายตัวขึ้น3.7% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันในปีก่อน ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม 7 เดือนแรกของปี 60 ขยายตัว 0.62% ส่งสัญญาณบ่งบอกว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว เช่นเดียวกันกับการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำแท่ง) ที่ขยายตัวถึง 14.2% รวมถึงการนำเข้าสินค้าทุนที่ขยายตัว 9.5% และการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (ไม่รวมทองคำแท่ง) ที่ขยายตัวถึง 11.5%
โดยอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) มีการขยายตัว ได้แก่ เครื่องยนต์สำหรับรถยนต์ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 26.72% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน จากผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์ดีเซลที่ได้ผลิตเครื่องยนต์รุ่นใหม่ จนได้รับความนิยมจากลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเน้นส่งออกให้กับลูกค้าในกลุ่มประเทศ AEC (อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์) เป็นหลัก
ผลิตภัณฑ์ยาง ขยายตัวเพิ่มขึ้น 17.23% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน จากผลิตภัณฑ์ยางแผ่น เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนในปีก่อนส่งผลให้วัตถุดิบน้ำยางสำหรับผลิตมีจำนวนน้อยกว่าในปีนี้ อีกทั้งผู้ผลิตบางรายมีการเพิ่มทุนและขยายการผลิต ทำให้การผลิตเพิ่มสูงขึ้นมาก
ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 6.19% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากแนวโน้มความต้องการใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นไปตามเทรนด์เทคโนโลยี IoT ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว จึงมีคำสั่งซื้อสินค้าจำพวก Other ICs และ PCBA มากขึ้น
เนื้อไก่แช่แข็ง ขยายตัวเพิ่มขึ้น 11.44% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนจากผลิตภัณฑ์เนื้อไก่แช่แข็งและแช่เย็นที่ขยายช่องทางจำหน่ายไปยังร้านฟูดส์เซอร์วิส (โรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร) มากขึ้น รวมถึงประเทศผู้ผลิตไก่รายใหญ่อย่างเกาหลีใต้ พบการระบาดของโรคไข้หวัดนก ทำให้หลายประเทศมีความต้องการนำเข้าเนื้อไก่จากไทย
อาหารทะเลแปรรูป ขยายตัวเพิ่มขึ้น 13.32% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน จากผลิตภัณฑ์ปลาแช่แข็ง ปลาหมึกแช่แข็ง และกุ้งแช่แข็ง ที่ได้รับคำสั่งซื้อปลาแช่แข็งจำนวนมาก (เนื้อปลาทูน่าขูด) จึงเร่งผลิตและส่งมอบ รวมถึงปีนี้วัตถุดิบกุ้งมีมากขึ้นเนื่องจากเกษตรกรสามารถจัดการปัญหาโรคตายด่วนได้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตามยังมีบางอุตสาหกรรมที่หดตัว ได้แก่ เครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน ปรับตัวลดลง 27.82% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนน้อยกว่าปีก่อนและมีฝนตกอย่างต่อเนื่องในปีนี้
คอนกรีต ซีเมนต์ และปูนปลาสเตอร์ ปรับตัวลดลง 21.47% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากมีโครงการที่ได้เร่งการผลิตเพื่อส่งมอบให้กับผู้รับเหมาก่อสร้างไปแล้ว ส่งผลให้ปีนี้งานก่อสร้างต่าง ๆ ลดลงมาก แม้ว่างานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐจะยังคงมีอยู่ก็ตาม
เครื่องประดับ ปรับตัวลดลง 22.19% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากการชะลอคำสั่งซื้อจากลูกค้ายุโรปและอเมริกา ภัยก่อการร้ายที่เกิดขึ้นในหลายประเทศที่ส่งผลให้ผู้สั่งซื้อชะลอการนำเข้า
เฟอร์นิเจอร์ ปรับตัวลดลง 22.09% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากขาดแคลนวัตถุดิบสำหรับการผลิต