นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง คาดว่า จะเสนอกฎกระทรวงการคลังว่าด้วยภาษีสรรพสามิต เพื่อกำหนดอัตราภาษีสุราและยาสูบภายใต้ พ.ร.บ.สรรพสามิตฉบับใหม่ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในช่วงต้นเดือน ก.ย.นี้
สำหรับสาเหตุที่ต้องเสนอแยกในส่วนของสุราและยาสูบหลังอัตราภาษีอื่นนั้น เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลต่อการการกักตุนสินค้า แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะไม่เกิดการกักตุนอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้มีการขยายฐานภาษีใหญ่ขึ้น ดังนั้น อัตราภาษีจะเล็กลง ซึ่งจะไม่มีผลต่อราคาขายปลีกหรือกระทบต่อผู้ประกอบการ และนัยของกฎหมายเพื่อต้องการให้การเก็บภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และชัดเจนมากกว่า
"อัตราภาษีสุรา และยาสูบใหม่นั้นจะเสนอให้ ครม. พิจารณาก่อนที่กฎหมายสรรพสามิตใหม่จะบังคับใช้ โดยจะเสนอครม.วันที่ 5 ก.ย.หรือ 12 ก.ย.นี้ ก่อนกฎหมายสรรพสามิตฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. เพราะเชื่อว่าจะมีผลในเรื่องการกักตุนบ้างเล็กน้อย แต่ไม่มีนัยยสำคัญแน่นอน เพราะกฎหมายใหม่จะทำให้ฐานภาษีกว้างขึ้น และจะมีการปรับอัตราภาษีให้เล็กลง ซึ่งจะทำให้ยอดการจัดเก็บภาษีไม่ต่างไปจากเดิม จึงเป็นตัวสะท้อนว่าผู้ประกอบการจะไม่มีภาระภาษีเพิ่มขึ้นหากเดิมมาถูกทางแล้ว" นายวิสุทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้วในส่วนของเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์จะมีผลทันที ต่างกับเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลที่จะมีระยะเวลาให้ปรับตัวเป็นช่วงๆ ช่วงละ 2 ปี รวมทั้งหมด 6 ปี
สำหรับพ.ร.บ.สรรพสามิตฉบับใหม่จะมีการรวมกฎหมาย 7 ฉบับมาไว้ในฉบับเดียว และเปลี่ยนฐานคำนวณภาษีจากราคาหน้าโรงงาน และราคาซีไอเอฟ มาเป็นใช้ฐานจากราคาขายปลีกแนะนำ โดยกรมสรรพสามิตได้ออกกฎหมายลำดับรอง 91 ฉบับ รวมทั้งกำหนดอัตราภาษีใหม่เพื่อให้เกิดความสมดุล และไม่ผลักภาระให้ผู้ประกอบการ
นายวิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า ได้มอบหมายให้กรมสรรพสามิตไปพิจารณาประเภทสินค้าที่มีการจัดเก็บภาษีอยู่เดิมว่ามีความจำเป็นหรือไม่ หากไม่จำเป็นก็ให้ตัดออก ส่วนสินค้าประเภทใดที่มีความจำเป็นก็ให้เพิ่มเข้ามาในหมวดการจัดเก็บภาษี เช่น สินค้าที่มีผลต่อสุขภาพอนามัย สิ่งแวดล้อม เป็นต้น โดยยืนยันว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายสรรพสามิตฉับใหม่นั้น ไม่ได้ต้องการเพื่อจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้การจัดเก็บภาษีมีประสิทธิภาพ มีความชัดเจน โปร่งใสและเป็นธรรม
ด้านนายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กฎหมายสรรพสามิตฉบับใหม่จะมีการจัดเก็บภาษีตัวใหม่ เช่น ภาษีจากค่าความหวาน จากเดิมไม่มีการจัดเก็บเพราะต้องการส่งเสริมเกษตรกร แต่ตามข้อเรียกร้องของกระทรวงสาธารณสุข และกลุ่มเอ็นจีโอ ที่ต้องการให้ประชาชนลดการบริโภคน้ำตาล เพื่อส่งเสริมสุขภาพ จึงได้เพิ่มเข้าไปในกฎหมายฉบับนี้ด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี ที่ให้ประชาชนมีสุขภาพดีขึ้น ส่วนรายละเอียดต้องรอประกาศในราชกิจจานุเบกษาก่อน แต่เบื้องต้นจะมีการผ่อนผันระยะหนึ่งให้ผู้ประกอบการปรับตัว และถ้าค่าความหวานมีไม่ถึง 6 กรัม จะไม่เสียภาษี รวมถึงกฎหายจะให้การปกป้องผู้ประกอบการภายในประเทศ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้นด้วย