นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนาทดสอบความสนใจของนักลงทุน (Market Sounding) โครงการทบทวนเพื่อศึกษาเพิ่มเติมผลการศึกษาความเหมาะสมด้านธุรกิจและการลงทุนโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณพื้นที่ย่านมักกะสัน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตาม พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 ว่า ในส่วนของ รฟท.นั้นจะมีการจัดตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์ ภายใน 2 เดือน ซึ่งจะเสนอเรื่องให้คณะกรรมการคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) พิจารณาได้ปลายเดือน ก.ย.นี้ และจะเสนอ ครม.ขออนุมัติ โดย รฟท.จะถือหุ้น 100% แยกการบริหารจาก รฟท. เพื่อให้มีความคล่องตัวในการจ้างบุคลากรทั้งหมด, การระดมทุน คาดว่า ในปี 2561 จะเปิดประมูลพื้นที่บางซื่อและมักกะสันได้
โครงการนี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ 1 ใน 4 ผืนใหญ่ใน กทม.และอยู่ใจกลางเมือง หากสามารถพัฒนาไปในทิศทางที่เหมาะสมจะส่งผลให้เกิดการเปิดพื้นที่ใหม่ ทำให้ กทม.เปลี่ยนไป เป็นเมืองที่มีความทันสมัยระดับสากล ทั้งทางเศรษฐกิจ จะมีผลด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตและระบบ ธุรกิจเศรษฐกิจ
บริเวณย่านมักกะสันเป็นจุดเชื่อมต่อด้านโลจิสติกส์ที่สำคัญ โดยเฉพาะมีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมกับ 3 สนามบิน และยังมีระบบรถไฟทางคู่เชื่อมสถานีบางซื่อไปทั่วประเทศ และสามารถเชื่อมประเทศอาเซียนและจีนตอนใต้อีกด้วย โดยเป็นส่วนสำคัญที่จะปฎิรูปเพิ่มรายได้ แก้ปัญหาขาดทุนของ รฟท. การสัมมนานี้จะรับฟังความเห็นนักลงทุนเพื่อเป็นจุดเรื่มต้นในการออกแบบโครงการ
บริเวณมักกะสันมีพื้นที่ทั้งสิ้น 508.92 ไร่ การศึกษาทบทวนแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ โซน A ขนาด 139.82 ไร่ เป็นส่วนธุรกิจการค้า สถานีรถไฟความเร็วสูง โรงแรม ร้านค้าปลอดภาษี ศูนย์ประชุม ห้างสรรพสินค้า โซน B ขนาด 179.02 ไร่ เป็นย่านธุรกิจสำนักงาน ธนาคาร โรงแรม โซน C ขนาด 151.40 ไร่ เป็นที่อยู่อาศัยและสาธารณสุข โรงเรียน และโซน D ขนาด 38.68 ไร่ เป็นพิพิธภัณฑ์รถไฟ