นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวานนี้ว่า ที่ประชุมกบง.มีมติปรับราคาขายปลีกก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) อ้างอิงสำหรับเดือนกันยายน 2560 เพิ่มขึ้น 0.67 บาท/กิโลกรัม (กก.) จาก 20.49 บาท/กก. เป็น 21.15 บาท/กก. หรือปรับราคาขายปลีกเพิ่มขึ้น 10 บาท/ถังขนาด 15 กก. โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2560 หลังจากราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกปรับตัวขึ้นมาก
ทั้งนี้ จากการพิจารณาโครงสร้างราคาก๊าซ LPG อ้างอิงสำหรับเดือนกันยายน 2560 ซึ่งจากสถานการณ์ราคาก๊าซ LPG ตลาดโลก (CP) เดือนกันยายน 2560 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มาอยู่ที่ระดับ 490 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 50 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยเดือนสิงหาคม 2560 แข็งค่าขึ้นจากเดือนก่อน 0.4854 บาท/เหรียญสหรัฐฯ มาอยู่ที่ 33.4292 บาท/เหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ราคา ณ โรงกลั่นที่อ้างอิงราคานำเข้า (Import Parity) ซึ่งเป็นราคาซื้อตั้งต้นก๊าซ LPG ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.4389 บาท/กก. จาก 16.2581 บาท/กก. เป็น 17.6970 บาท/กก.
ดังนั้น เพื่อให้ราคาขายปลีกก๊าซ LPG สะท้อนต้นทุน สอดคล้องตามแนวทางการเปิดเสรีธุรกิจก๊าซ LPG ในขณะเดียวกันต้องไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนมากเกินไป ที่ประชุม กบง. จึงเห็นควรให้ใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ช่วยรักษาเสถียรภาพราคา โดยให้ปรับเพิ่มอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ 0.8160 บาท/กก. จากเดิมที่กองทุนน้ำมันฯ ชดเชยที่ 2.7559 บาท/กก. เป็นชดเชย 3.5719 บาท/กก. ส่งผลให้ราคาขายปลีกก๊าซ LPG อ้างอิงสำหรับเดือนกันยายน ปรับเพิ่มขึ้นเพียง 0.67 บาท/กก.
ทั้งนี้ ผลจากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายจ่ายสุทธิอยู่ที่ 508 ล้านบาท/เดือน โดยฐานะสุทธิของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 3 กรกฎาคม 2560 อยู่ที่ 38,632 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีในส่วนของก๊าซ LPG อยู่ที่ 5,859 ล้านบาท และบัญชีในส่วนของน้ำมันสำเร็จรูป อยู่ที่ 32,773 ล้านบาท
นายประเสริฐ กล่าวว่า ที่ประชุมกบง. ยังได้พิจารณาผลการศึกษาการทบทวนการคำนวณต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (NGV) เพื่อให้สะท้อนต้นทุน และสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ของสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยเห็นชอบให้ปรับสูตรราคา NGV โดยเพิ่มค่าใช้จ่ายในการปรับคุณภาพ NGV เฉพาะรถส่วนบุคคล ส่วนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ยังคงให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การคำนวณเดิม ตามมติ กบง. เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2559 ทั้งนี้ ให้บมจ.ปตท. (PTT) รับไปบริหารจัดการต้นทุนให้เหมาะสมต่อไป