นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ในช่วงต้นปีงบประมาณ 61 กรมธนารักษ์จะเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับคนไทยทั่วประเทศ ซึ่งเบื้องต้นจะเปิดตัวพร้อมกันประมาณ 20 จังหวัด โดยเป็นการจัดทำโครงการที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนทั่วไป ตลอดจนผู้สูงอายุ และผู้มีรายได้น้อยตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งคาดว่าราคาจำหน่ายจะไม่เกิน 5 แสนบาทต่อหน่วย
ทั้งนี้ กรมธนารักษ์จะดำเนินการร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท) ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือในเรื่องของการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์การก่อสร้างในราคาต้นทุน เพื่อให้ได้ราคาบ้านที่ไม่สูงจนเกินไปนัก ขณะเดียวกันจะร่วมกับธนาคารออมสิน และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เพื่อให้เข้ามาช่วยสนับสนุนวงเงินสินเชื่อให้ทั้งแก่ผู้ที่จะพัฒนาโครงการและผู้ที่ต้องการซื้อโครงการด้วย
นายพชร กล่าวว่า โดยหนึ่งในโครงการที่กรมธนารักษ์จะทำภายใต้โครงการดังกล่าวคือ การจัดทำที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุแบบครบวงจร (Senior complex) บนพื้นที่ราชพัสดุแปลง ปข.320 ต.ประจวบคีรีขันธ์ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เนื้อที่ประมาณ 11-2-26 ไร่ โดยคาดว่าจะเปิดให้ทั้งภาครัฐและเอกชนที่สนใจได้เข้ามาเสนอโครงการพัฒนาที่ดินแปลงดังกล่าวได้ในช่วงต้นปีงบประมาณ 61
ทั้งนี้ เดิมได้มีการออกแบบไว้เป็นที่พักไว้สำหรับผู้สูงอายุใน 3 องค์ประกอบ คือ 1.ที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Senior Housing Zone) 2.ที่พักสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการพึ่งพิง (Nursing Home Zone) และ 3.ศูนย์เรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุแบบครบวงจร และบริบาลผู้ป่วยระยะสุดท้าย (Hospice Zone) แต่เนื่องจากขนาดของพื้นที่ราชพัสดุแปลงนี้อาจจะไม่เพียงพอรองรับการดำเนินการได้ครบทั้ง 3 องค์ประกอบ ดังนั้นเท่าที่ได้พิจารณาในเบื้องต้นอาจจะเหลือเพียงรูปแบบของการทำที่พักสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการพึ่งพิง หรือเริ่มต้องได้รับการดูแลมากกว่าระดับปกติเท่านั้น
"เราเคยติดต่อกับ รพ.รัฐที่จะทำซีเนียร์ คอมเพล็กซ์ แต่อาจจะมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ ประกอบกับวันนี้ เราอยากให้มีโครงการในลักษณะประชารัฐ ดังนั้นอาจจะพิจารณาว่าเป็นไปได้ไหมให้มี รพ.เอกชน ที่อยากประกอบกิจการลักษณะนี้เข้ามาพัฒนาโครงการ ซึ่งต้องมีหลายองค์ประกอบ ทั้งบ้านพักสำหรับผู้สูงอายุปกติ บ้านพักสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลเพิ่มขึ้น และบ้านพักสำหรับผู้สูงอายุที่ติดเตียง แต่พื้นที่นี้อาจไม่พอรองรับขนาดนั้น อาจจะไปพิจารณาร่วมกับภาครัฐและเอกชนที่อยู่ในธุรกิจนี้ เช่น รพ.ต่างๆ ว่าจะทำอย่างไรดี หรือทำแค่ผู้สุงอายุที่เริ่มต้องการการดูแล ซึ่งก็น่าจะเหมาะสมที่สุด" อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าว
พร้อมระบุว่า จะมีการดำเนินการร่วมกับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ตลอดจนกองทุนประกันสังคม ในการทำตลาดเพื่อให้ได้ลูกค้าเป้าหมายที่แน่นอน คือ ประชาชนทั่วไป หรือข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้น โดยคาดว่าระดับราคาขายจะอยู่ที่ไม่เกิน 1 ล้านบาท เพื่อไม่ให้มีภาระในการผ่อนชำระที่สูงเกินไปจนกระทบกับการครองชีพ
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้ผ่านการทำประชาพิจารณ์จากในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นพื้นที่ราชพัสดุในข้อกำหนดผังเมืองสีส้ม ประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง ทำเลชั้น 1 ราคาประเมินที่ดินช่วงปี 59-62 อยู่ที่ตารางวาละ 20,000 บาท เนื้อที่ 11-2-26 ไร่ คิดเป็นมูลค่าที่ดินประมาณ 95.52 ล้านบาท ด้านหน้าแปลงที่ดินติดกับถนนสวนสน ซึ่งเป็นถนนเลียบชายทะเล บริเวณด้านหลังแปลงที่ดินติดคลองบางนางรม สภาพที่ดินเป็นที่ว่างถมเสมอถนน
"ใครสนใจที่จะพัฒนาที่ดินแปลงนี้ ต้นปีงบประมาณ 61 จะมีรายละเอียดทั้งหมด ที่นี่ไม่มีปัญหาเรื่องการทำประชาพิจารณ์ ไม่ติดปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม อยู่ในพื้นที่สีส้ม สามารถดำเนินงานได้เลย" อธิบดีกรมธนารักษ์ระบุ