นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการและประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ จังหวัดสุพรรณบุรี และพระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 18-19 ก.ย.60 โดยได้ใช้โอกาสนี้ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานและพบปะเกษตรกร ณ ศูนย์ถ่ายทอดการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซองเดอร์ ไทยออร์แกนิคฟู้ด ต.หนองโอ่ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าการผลักดันนโยบายเกษตรอินทรีย์ของกระทรวงพาณิชย์
โดยขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติปี 2560-64 ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ฉบับที่ 2 หลังจากที่ฉบับแรกได้สิ้นสุดไปเมื่อปี 2554 มีแผนที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคด้านการผลิต การบริโภค การค้าสินค้า และการบริการเกษตรอินทรีย์ที่มีความยั่งยืนและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยมีแผนการทำงานใน 4 ด้าน คือ 1. การส่งเสริมการวิจัย การสร้างและเผยแพร่องค์ความรู้และนวัตกรรมเกษตรอินทรีย์ 2. การพัฒนาการผลิตสินค้าและบริการเกษตรอินทรีย์ 3. การพัฒนาการตลาดสินค้าและบริการและการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และ 4. การขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์
"กระทรวงพาณิชย์จะผลักดันให้มูลค่าตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นปีละ 20% จากปัจจุบันที่มีมูลค่าตลาดประมาณ 2,700 ล้านบาท แยกเป็น ตลาดส่งออกประมาณ 1,100 ล้านบาท และตลาดในประเทศประมาณ 1,600 ล้านบาท เพราะปัจจุบันความต้องการสินค้าเกษตรอินทรีย์ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก ประกอบกับกระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะผลักดันและส่งเสริมด้านการตลาดให้กับสินค้าเกษตรอินทรีย์อย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าจะผลักดันให้มีการขยายตัวได้เพิ่มขึ้นแน่นอน" นางอภิรดีกล่าว
สำหรับแผนการเพิ่มปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์นั้น กระทรวงฯ ได้ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการผลักดันให้เกษตรกรหันมาเพาะปลูกสินค้าเกษตรอินทรีย์ โดยได้เข้าไปให้ความรู้ แนะนำการเพาะปลูก การพัฒนากระบวนการผลิต การแปรรูป และได้เข้าไปช่วยเหลือด้านช่องทางการตลาด ทั้งการผลักดันให้มีการจำหน่ายในห้างค้าปลีก ค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าสินค้าเกษตรอินทรีย์ รวมถึงการนำเข้าร่วมงานแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเปิดตัวสินค้าเกษตรอินทรีย์และผลักดันให้มีการส่งออกได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ในปัจจุบันตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ของโลก มีมูลค่าสูงประมาณ 3 ล้านล้านบาท ขยายตัวปีละ 20% จึงเป็นโอกาสสำหรับสินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทย เพราะมีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเหตุที่ผู้บริโภคทั่วโลกได้หันมาให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ปราศจากสารเคมี หรือสารพิษตกค้าง และยังมีกระแสการปกป้องและรักษาสิ่งแวดล้อมโลกที่ประเทศที่พัฒนาแล้วให้ความสำคัญ จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์เติบโตมากยิ่งขึ้น
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับซองเดอร์ ไทยออร์แกนิคฟู้ด ได้เริ่มดำเนินการในปี 2543 มีการตั้งกลุ่มเพื่อพัฒนาชุมชนในท้องถิ่นเพื่อพัฒนาศักยภาพและการสร้างงานผลิตพืชอินทรีย์ชุมชนเข้มแข็ง เครื่องดื่มธัญญาหารซองเดอร์เป็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพที่ไร้สารพิษตั้งแต่วัตถุดิบและการไม่เบียดเบียนผู้ผลิต พึ่งพาตนเอง ก่อให้เกิดอาหารที่ดีทั้งกายและจิตใจ โดยโรงงานแปรรูปเกษตรไร้สารพิษอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับตรารับรองเกษตรอินทรีย์ Organic IFOAM, Organic EU ตั้งอยู่ที่อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ใช้วัตถุดิบจากเครือข่ายกสิกรรมไร้สารพิษ และมี Contract Farming ในจังหวัดสุพรรณบุรีและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP, HACCP,HALAL และอื่นๆ
โดยดำเนินธุรกิจการผลิตสินค้าแปรรูป อาหารและเครื่องดื่มจากวัตถุดิบธัญพืชเกษตรอินทรีย์ (Organic) แบบเต็มเมล็ด ไม่สกัดเปลือก (Whole Grains) เพื่อสุขภาพที่ดี มีรสชาติอร่อย ถูกใจผู้บริโภคที่เป็นผู้รักษาสุขภาพ โดยยึดหลักแนวคิดตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและธรรมาภิบาล คุณธรรมนำธุรกิจซื่อสัตย์ต่อลูกค้าและพนักงาน