พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมกาพิจารณาคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ และ มาตรการทางภาษีกับทางบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด เรียกประชุมมอบหมายงานเพื่อเร่งรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนส่งอัยการเพื่อฟ้องศาลโดยเร็วที่สุด หลังจากกรมสรรพากรแจ้งความร้องทุกข์เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ว่าบริษัทดังกล่าวหลบเลี่ยงภาษี ตั้งแต่ปี 54-59 รวม 6 ปี เป็นเงินกว่า 7,000 ล้านบาท
"คดีการหลีกเลี่ยงภาษีที่กรมสรรพากรแจ้งความร้องทุกข์จะแยกออกจากคดีเดิมที่ศาลยกฟ้องในข้อหาอั้งยี่ ร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวผิดกฎหมาย อันจะทำให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว"พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบมูลค่าความเสียหายการเลี่ยงภาษีที่แน่ชัด รวมถึงตรวจสอบว่ามีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดลักษณะดังกล่าวที่อยู่ในเครือบริษัทโอเอจำนวนกี่บริษัท ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนสอบสวนให้เกิดความชัดเจน เพื่อนำมาสรุปสำนวนส่งให้อัยการส่งฟ้องศาลต่อไป
พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ระบุว่า หลังจากมีการร้องทุกข์กล่าวโทษ ทาง ปอศ. ก็เสนอเรื่องไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาคดีดังกล่าวขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อสืบสวนสอบสวนคดีให้เกิดความชัดเจน ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน
เจ้าหน้าที่คงต้องใช้เวลารวบรวมมูลค่าความเสียหายที่ชัดเจน และจำนวนบริษัทที่เข้าข่ายการกระทำความผิด แต่ยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เนื่องจากคดีนี้ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ และต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วหลายปาก โดยเฉพาะกรมสรรพกรก็ได้สอบปากคำอย่างละเอียดแล้วเช่นกัน แต่ยังคงต้องสอบปากคำในส่วนอื่น ๆ เพิ่มเติม เนื่องจากคดีนี้มีเอกสารที่ต้องตรวจสอบจำนวนมาก รวมถึงยังไม่มีการสอบปากคำตัวแทนบริษัทที่พบว่ามีการหลีกเลี่ยงภาษี
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานเพียงพอในการดำเนินคดีกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด เนื่องจากทางกรมสรรพกรได้รวบรวมพยานหลักฐานส่วนหนึ่งมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และคดีดังกล่าวเป็นการแจ้งความของหน่วยงานราชการ ทำให้มั่นใจว่า ธุรกิจในเครือโอเอจะต้องมีการกระทำผิดจริงอย่างแน่นอน โดยหลังจากนี้เตรียมที่จะส่งเรื่องให้กับทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงินของบริษัทฯที่กรมสรรพกรได้ร้องทุกข์กล่าวโทษเอาไว้ เพื่อดำเนินการยึดอายัดทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดต่อไป