นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในเดือนส.ค. 60 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปได้ 102,907 คัน เพิ่มขึ้น 9.26% จากเดือนส.ค.59 เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน โดยส่งออกเพิ่มขึ้นเกือบทุกตลาด ยกเว้นตะวันออกกลางและตลาดแอฟริกา คิดเป็นมูลค่าการส่งออกรถยนต์ 54,209.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.19% จากเดือนส.ค.59
ขณะที่การส่งออกช่วง 8 เดือนปี 60 (ม.ค.-ส.ค.) ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปมีจำนวน 729,328 คัน ลดลง 7.46% จากระยะเวลาเดียวกันปีก่อน โดยส่งออกลดลงเกือบทุกตลาด ยกเว้นตลาดออสเตรเลีย และตลาดอเมริกาเหนือ โดยมีมูลค่าการส่งออก 385,726.28 ล้านบาท ลดลง 8.52% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
ด้านรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนส.ค.60 มีจำนวนทั้งสิ้น 177,415 คัน เพิ่มขึ้น 13.48% จากเดือนส.ค.59 จากการผลิตรถยนต์นั่งและรถกระบะเพื่อจำหน่ายในประเทศที่เพิ่มขึ้น 16.21% และ 67.29% ตามลำดับ และผลิตรถกระบะเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น 7.05% และเพิ่มขึ้น 11.52% จากเดือนก.ค.60
โดยจำนวนที่ผลิตได้ดังกล่าว เป็นการผลิตเพื่อส่งออก 99,810 คัน คิดเป็น 56.26% ของยอดการผลิตทั้งหมด และเป็นผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 77,605 คัน คิดเป็น 43.74% ของยอดการผลิตทั้งหมด
ส่วนในช่วง 8 เดือนมีจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ 1,287,472 คัน ลดลง 1.24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
"การส่งออกรถยนต์ในเดือน ส.ค.60 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 9.26% จาก ส.ค.59 ซึ่งมีทิศทางสอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรม ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าแนวโน้มการส่งออกรถยนต์จะขยายตัวได้ดีต่อเนื่องในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ โดยคาดว่าปีนี้จะสามารถส่งออกรถยนต์ได้ 1.2 ล้านคันตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แม้ยอดส่งออกรวมช่วง 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.60) จะขยายตัวลดลง 7.46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน" นายสุรพงษ์ กล่าว
ขณะที่การผลิตรถยนต์ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1.9 ล้านคัน หลังการผลิตรถกระบะเพื่อส่งออกกลับมามีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น