นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เชื่อว่า ปีนี้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสจะเติบโตได้อย่างน้อย 3.7% แน่นอน เนื่องจากเห็นแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมาของปีนี้ซึ่งมีทิศทางที่ดีขึ้น และถือเป็นสัญญาณที่ดี ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังพร้อมที่จะใช้นโยบายการคลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป หากในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 27 ก.ย.นี้ ไม่มีการพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจากระดับ 1.50% เพราะขณะนี้มองว่าเศรษฐกิจไทยก็ยังเติบโตได้ เพียงแต่เห็นว่าหากได้นโยบายการเงินเข้ามาช่วยเสริม ก็จะช่วยทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้เต็มศักยภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ต้องติดตามปัจจัยเสริมเพื่อการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในช่วง 3 เดือนสุดท้าย เช่น การลงทุนภาคเอกชน, การลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งนักลงทุนญี่ปุ่นให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ตลอดจนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ โดยเฉพาะรถไฟฟ้า ซึ่งหากปัจจัยดังกล่าวสามารถเดินหน้าได้ในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ก็จะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวได้เป็นอย่างดี โดยมองว่าปีนี้ GDP จะขยายตัวได้อย่างน้อย 3.7% แน่นอน ส่วนจะถึง 4% หรือไม่ยังต้องดูปัจจัยต่างๆ ประกอบด้วย
"ถ้า กนง.ไม่ปรับลดดอกเบี้ยก็ไม่เป็นไร ก็จบไป กระทรวงการคลังก็ทำหน้าที่ของเราในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป ซึ่งปีนี้จริงๆ ก็อยากเห็นว่า GDP โตได้ถึง 4% ยังมีเวลาอีก 3 เดือนที่เหลือ เชื่อว่า สศค.อาจจะปรับประมาณการ GDP เพิ่มขึ้นก็ได้ เพราะคนอื่นก็ปรับขึ้นไปหมดแล้ว และเมื่อดูจากข้อมูลเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา GDP ก็ขยายตัวถึง 3.7% ดีกว่าไตรมาสแรกมาก ถือเป็นสัญญาณที่ดี" ปลัดกระทรวงการคลังกล่าว
พร้อมระบุว่า ในวันที่ 28 ก.ย. นี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จะมีการประกาศดัชนีอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค ซึ่งจะเป็นตัวเลขคาดการณ์ความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจรายภูมิภาค รายจังหวัด ในช่วง 6 เดือน โดยเบื้องต้นเห็นว่ามีแนวโน้มที่ดี ส่วนจุดใดที่เป็นปัญหาก็พร้อมจะหามาตรการเฉพาะเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้จะเป็นตัวกำหนดว่าแต่ละส่วนควรมีมาตรการเข้าไปช่วยเหลือหรือสนับสนุนอย่างไรให้เติบโตได้ ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือด้วยมาตรการที่เหมาะสมและตรงจุด