นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า ขณะนี้ บมจ. ช ทวี (CHO) อยู่ระหว่างการติดตั้งระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) บนรถโดยสารประจำทาง จำนวน 200 คัน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้ เพื่อรองรับการใช้บริการของประชาชน ตามที่รัฐบาลได้ประกาศใช้บัตรสวัสดิการของรัฐ ในวันที่ 1 ต.ค.60 ในการช่วยเหลือลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ส่วนอีก 600 คัน จะเป็นระบบอ่านบัตรแบบมือถือ หรือ โมบายโฟน ไปก่อน โดยคาดว่าจะดำเนินการติดตั้งติดตั้งเครื่อง E-Ticket ได้ ครบ 800 คันในวันที่ 15 พ.ย. และเป็น 1,500 คันในเดือนธ.ค. โดยจะติดตั้งครบ 2,600 คัน ในเดือนมิ.ย. 61
สาเหตุที่ช่วงแรกติดตั้งได้เพียง 200 คันเนื่องจากรถมีหลายแบบ เช่น รถร้อนประตูอยู่ตรงกลาง ส่วนรถปรับอากาศมีประตูหน้า และตรงกลาง
นอกจากนี้ ขสมก. จะทยอยติดตั้งเครื่องเก็บค่าโดยสารแบบเหรียญ (cash box) เพิ่มเติมในภายหลัง
ส่วนกรณีที่อาจจะมีการขยายเวลาการใช้บัตรออกไปจากวันที่ 1 ต.ค.นี้ ขสมก.ยังไม่ได้รับการประสานใดๆ แต่จะยังคงเร่งติดตั้งระบบเพื่อรองรับการเริ่มใช้งานวันที่ 1 ต.คนี้ตามเป้าหมายเดิม และในอนาคต ขสมก.วางแผนจะออกบัตรตั๋วร่วม ซึ่งมีชิฟแมงมุม อยู่ในบัตรประมาณ 500,000 ใบเพื่อจำหน่ายสำหรับบริการในระบบรถเมล์เองด้วย
โดยในช่วง 2 ปีแรก ทางขสมก.จะยังคงมีพนักงานเก็บค่าโดยสารบนรถ เนื่องจากจะมีทั้งผู้ใช้บัตรคนจน ผู้ใช้เงินสด จึงต้องมีพนักงานคอยแนะนำจนกว่าจะมีระบบ E-Ticket เต็มรูปแบบ ซึ่งตามแผนฟื้นฟูองค์กร ขสมก.จะลดพนักงานลงตามโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด (เออร์รี่รีไทร์) แบบสมัครใจในปี 2562-2564 รวม 2,000 คน รวมถึงการพิจารณาประเภทเชื้อเพลิงของรถโดยสารที่จะจัดซื้ออีก 3,000 คัน ด้วยคาดว่าจะสรุปแผนฟื้นฟูได้ใน 1-2 เดือน