นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการนำคณะเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน และกรมสรรพสามิต ลงพื้นที่ตรวจสอบสต็อกสินค้าในร้านค้าส่งสุรา และยาสูบ ใน จ.นนทบุรี ภายหลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ออกตรวจสอบสถานการณ์จำหน่าย เนื่องจากได้รับการร้องเรียนว่ามีการกักตุนสินค้า และร้านค้าส่งบางพื้นที่ปิดร้าน
"ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย.60 มีการร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 เรื่องการกักตุนของเหล้าและบุหรี่ 5 ราย และวันที่ 13 ก.ย.อีก 11 ราย"
จากการตรวจสอบไม่พบการปฏิเสธการจำหน่ายหรือการกักตุนสินค้า โดยร้านค้ายังจำหน่ายสินค้าตามปกติ และเจ้าของร้านยืนยันว่าขณะนี้ยังคงจำหน่ายสุราและยาสูบในราคาเดิม ไม่มีการปรับขึ้น เพราะเป็นสินค้าสต็อกเก่า ซึ่งผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายยังไม่ได้แจ้งการปรับขึ้นราคามา แต่สำหรับบุหรี่ของโรงงานยาสูบนั้นได้ทยอยปรับขึ้นราคาตามที่โรงงานยาสูบแจ้งแล้ว หลังจากสต็อกเก่าหมดลง ส่วนบุหรี่ต่างประเทศก็ยังคงขายราคาเดิม
"กระทรวงฯ ได้ประสานไปยังกรมสรรพสามิต เพื่อตรวจสอบสต็อกของผู้ผลิตรายใหญ่อย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามดูว่ามีสต็อกสินค้าเก่าจำนวนเท่าใด หากพบว่ามีการนำสต็อกเก่าออกมาจำหน่ายในราคาใหม่ จะดำเนินการตามกฎหมายทันที ซึ่งการตรวจสอบว่าสินค้าเป็นสต็อกเก่าหรือไม่ สามารถตรวจสอบได้จากการติดอากรแสตมป์ที่จะมีข้อมูลบอกไว้ชัดเจนว่าผลิตเมื่อไร" รมช.พาณิชย์ระบุ
ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 กระทรวงพาณิชย์มีอำนาจตรวจสอบการปิดป้ายแสดงราคา ซึ่งหากมีการจำหน่ายในราคาที่สูงกว่าราคาที่แสดงไว้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และหากจงใจทำให้ราคาสูงเกินสมควร หรือทำให้เกิดการปั่นป่วนซึ่งราคา จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ แต่กระทรวงพาณิชย์ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลการกักตุน หรือปฏิเสธการจำหน่ายสุราและยาสูบ เพราะเป็นหน้าที่ของกรมสรรพสามิตโดยตรง อย่างไรก็ตาม หากประชาชนร้องเรียนผ่านกระทรวงพาณิชย์ หรือสายด่วนกรมการค้าภายใน โทร.1569 จะประสานกรมสรรพสามิตเพื่อไปตรวจสอบให้
"หากจะร้องเรียนผ่านกรมฯ เรื่องการกักตุน กรมฯ ก็จะส่งเรื่องให้กรมสรรพสามิตดำเนินการต่อไป แต่หากจะร้องเรียนโดยตรงกับกรมสรรพสามิตก็สามารถใช้ โทร.สายด่วน 1713 ได้เลย เพราะจะได้รับการแก้ปัญหาได้รวดเร็วกว่าร้องเรียนมาที่กรมการค้าภายใน" นายสนธิรัตน์ กล่าว
พร้อมระบุว่า ในส่วนของสินค้าหมวดอื่น เช่น น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มที่มีความหวาน ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน ตรวจสอบโครงสร้างต้นทุนหลังภาษีสรรพสามิตมีผลบังคับใช้ว่าจะมีผลทำให้ราคาขายในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และสั่งสำรวจผู้ผลิต ผู้แทนจำหน่าย ร้านค้าส่ง ร้านค้าปลีก และร้านค้าทั่วไปว่ามีการเปลี่ยนแปลงราคาสอดคล้องกับต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร หากพบความผิดปกติ จะเชิญทุกฝ่ายเข้ามาหารือ