นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าตามภูมิภาคและระยะทางว่า ตามที่ทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ตั้งข้อสังเกตว่า การปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้า โดยกำหนดราคาค่าไฟฟ้าตามภูมิภาคและระยะทาง จะทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบต่อการดำเนินกิจการ และเป็นต้นทุนด้านพลังงาน โดยเสนอแนะให้รัฐเปิดรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนก่อน เพื่อกำหนดว่าแต่ละพื้นที่ของประเทศควรจะดำเนินการอย่างไรนั้น
ทางกระทรวงพลังงานขอชี้แจงว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 5/2558 เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2558 กพช. ได้มีมติเห็นชอบนโยบายโครงสร้างค่าไฟฟ้าของประเทศไทย ที่จะต้องมีความเหมาะสมกับลักษณะโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคม และส่งเสริมความเสมอภาคของประชาชนในภูมิภาค โดยเป็นอัตราเดียวกันสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทเดียวกัน (Uniform Tariff) ยกเว้นธุรกิจบนเกาะ และผู้ใช้ไฟฟ้าที่เชื่อมโยงกับโครงข่ายระบบไฟฟ้าระหว่างประเทศ
โดยในส่วนของการปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าตามภูมิภาคและระยะทางตามที่ทางส.อ.ท. กล่าวถึงนั้น กพช. ยังไม่มีนโยบายดังกล่าวแต่อย่างใด เพียงแต่ให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และการไฟฟ้าเก็บข้อมูล โดยแยกต้นทุนของแต่ละกิจการตามพื้นที่ระดับภาค และรายงานต้นทุนดังกล่าวทุกปี ซึ่งการรวบรวมข้อมูลและศึกษาต้นทุนนี้จะช่วยในการบริหารจัดการการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นต่อไป