นายนที ขลิบทอง ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ หรือ สทบ. กล่าวว่า ตลอดการดำเนินงานในช่วง16 ปีที่ผ่านมา ถือว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถสร้างเงินออมได้กว่า 20,000 ล้านบาท จากเงินทุนที่ภาครัฐลงไปให้สามารถสร้างสาธารณะประโยชน์ได้กว่า 4,000 ล้านบาท มีเงินสมทบเข้ากองทุนอีกว่า 6,000 ล้านบาท เงินประกันความเสี่ยงกว่า 2,000 ล้านบาท สร้างกระบวนการโดยภูมิปัญญาจากคนในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งชาวกองทุนสามารถสร้างผลงานกองทุนได้เป็นที่น่าพอใจ สำหรับแนวทางในการดำเนินการก้าวเข้าสู่ปีที่ 17 จะเร่งดำเนินการตามกระบวนการพัฒนาชาวกองทุนหมู่บ้านให้เกิดความเข้มแข็ง โดยเฉพาะกองทุนชุมชนส่วนส่วนที่มีปัญหาประมาณร้อยละ 10 ก็จะต้องเร่งดำเนินการพัฒนา ฟื้นฟู ติดอาวุธทางปัญญา เพื่อให้เป็นกองทุนที่มีคุณภาพทัดเทียมกองทุนอื่นๆ ภายใต้นโยบายที่รัฐบาลวางไว้ คือ จะไม่ทิ้งกองทุนใดไว้ข้างหลัง จะเดินหน้าไปด้วยกัน
สำหรับในแง่ของมุมประชารัฐ ได้มีการพัฒนายกระดับคุณภาพของสินค้าของปี 2559 ที่ผ่านมา ให้เป็นร้านค้าประชารัฐต้นแบบ ขณะเดียวกันได้ส่งเสริมการดำเนินโครงการประชารัฐ ในปี 2560 ควบคู่กันไป ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยกำหนดแนวทางการพัฒนาไว้ 4 ระดับ ทั้งการให้องค์ความรู้ ให้กองทุนทำหน้าที่ให้บริการคนในชุมชนมากขึ้น การพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนที่ต้องมีความเข้มแข็ง รวมทั้งการผลักดันโครงการประชารัฐ เพื่อขับเคลื่อนกองทุนสู่ระดับประเทศ
กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐของจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งถือเป็นอีกแห่งหนึ่งที่ดำเนินการประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี โดยล่าสุด นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานฯ ซึ่งเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจังหวัดสุพรรณบุรี และเครือข่ายกองทุนหมู่บ้าน ระดับอำเภอ และระดับตำบล ได้ร่วมขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐบาลมาโดยตลอด