นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติกรอบและงบลงทุนของรัฐรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2561 วงเงินดำเนินการ 1,975,414 ล้านบาท และวงเงินเบิกจ่ายลงทุน 846,337 ล้านบาท
สำหรับโครงการที่ยังไม่ได้รับความเห็นชอบจาก ครม. และการลงทุนที่ใช้เงินงบประมาณตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ให้ดำเนินการได้เมื่อได้รับอนุมัติตามขั้นตอนแล้ว โดยให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ปรับเพิ่มกรอบวงเงินดำเนินการและกรอบวงเงินเบิกจ่ายลงทุนให้สอดคล้องกับมติ ครม.ที่อนุมัติโครงการลงทุนเพิ่มเติมระหว่างปี เพื่อให้รัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการได้ทันทีภายในปีงบประมาณ ทั้งนี้ กำหนดเป้าหมายให้รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายลงทุนไม่น้อยกว่า 95% ของกรอบวงเงินอนุมัติเบิกจ่ายลงทุน
"ครม.มีมติเห็นชอบเพิ่มเติมให้สภาพัฒน์สามารถปรับวงเงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจในอนาคต โดยสามารถปรับลดได้นั้นจากเหตุผลจากปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถบริหารจัดการได้เท่านั้น และให้รัฐวิสาหกิจรายงานความคืบหน้าของการลงทุนให้สภาพัฒน์ได้รับทราบทุกวันที่ 5 ของเดือนอย่างเคร่งครัด" นายกอบศักดิ์ กล่าว
ที่ประชุมฯ ยังได้รับทราบประมาณการงบทำการประจำปีงบประมาณ 2561 ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิประมาณ 125,318 ล้านบาท ส่วนในปี 2562-2564 คาดว่ารัฐวิสาหกิจจะมีการลงทุนเฉลี่ยปีละ 697,106 ล้านบาท และผลประกอบการจะมีกำไรสุทธิ 148,665 ล้านบาท และให้กระทรวงการคลังพิจารณากลั่นกรองงบลงทุนของรับวิสาหกิจทั้งระบบเมื่อ พ.ร.บ.การพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ มีผลในทางปฏิบัติเพื่อให้การกลั่นกรองมีเอกภาพ
สำหรับการพิจารณาโครงการลงทุนของรัฐวิสาหกิจจะประกอบด้วย 3 แนวทาง คือ 1.ความสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ประเทศ 20 ปี, กรอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (2560-2564), สถานการณืที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ และแนวนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล 2.ความจำเป็นในการลงทุนตามภาระผูกพันและตามภารกิจ 3.ความพร้อมในการลงทุนทั้งด้านกายภาพและฐานะการเงินภายใต้ความโปร่งใสในการดำเนินการ
ทั้งนี้ เมื่อได้พิจารณาแล้ว สศช.สามารถจำแนกวงเงินเบิกจ่ายงบลงทุนตามแผนฯ ฉบับที่ 12 ได้ 8 ด้าน คือ 1.การเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์ 2.การสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม 3.การสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน 4.การเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 5.การเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ 6.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ 7.การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรม 8.การพัฒนาภาคเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจ นอกจากนี้ สศช.ยังมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย และข้อเสนอแนะระดับกระทรวงและรัฐวิสาหกิจอีกด้วย
"ที่เป็นงบสำคัญที่สุดคือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ที่มีวงเงิน 7.9 แสนล้านบาท" นายกอบศักดิ์ กล่าว