กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) มีความเห็นต่อผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่า กนง. มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นับเป็นการลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ครั้งที่ 19 ติดต่อกัน ค่าเงินบาทแข็งค่าเล็กน้อยและซื้อขายอยู่ใกล้ระดับ 33.26 ต่อดอลลาร์ หลังจากการประชุม กนง.
อนึ่ง นับตั้งแต่ต้นปี เงินบาทแข็งค่าขึ้น 7% ซึ่งเป็นสกุลเงินที่แข็งค่ามากที่สุดในภูมิภาคตามปัจจัยหนุนจากยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดและเงินทุนไหลเข้า
ทั้งนี้ คณะกรรมการกนง. ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีกว่าที่ประเมินไว้เดิมจากการขยายตัวของภาคส่งออก ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นและกระจายมากขึ้น ส่วนแรงกดดันด้านราคา กนง. มองว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นแต่ในอัตราชะลอลงกว่าประมาณการเดิม เนื่องจากราคาอาหารสดปรับลดลงและคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวเข้าสู่เป้าหมายในช่วง 1.0-4.0% ในกลางปี 2561 ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลขการเติบโตของจีดีพีเป็น 3.8% สำหรับปี 2560 จากเดิม 3.5% และปรับคาดการณ์ยอดส่งออกเพิ่มเป็นเติบโต 8.0% จากเดิมที่คาดไว้ 5.0% แม้อัตราเงินเฟ้อ คาดว่าอยู่ที่ระดับ 0.6% เทียบกับคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 0.8%
คณะกรรมการกนง. มีกำหนดการประชุมรอบถัดไปในวันที่ 8 พ.ย.60 โดยกนง.มีมุมมองค่อนข้างบวกในวันนี้ แม้ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากกำลังซื้อในภาคครัวเรือนที่ยังอ่อนตัว และความเสี่ยงจากแรงงานต่างด้าวรวมทั้งปัญหาภูมิรัฐศาสตร์โลก ขณะที่ภาวะเงินเฟ้อยังต่ำ อัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจได้
ในด้านอัตราแลกเปลี่ยน ค่าเงินบาทค่อนข้างทรงตัวเมื่อเทียบกับสกุลเงินของประเทศคู่ค้า แต่อัตราแลกเปลี่ยนมีแนวโน้มผันผวนสูงเนื่องจากความไม่แน่นอนในต่างประเทศ ทั้งนี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า กนง. น่าจะยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% ก่อนการพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วงครึ่งหลังของปี 61