นายวิลเบอร์ แอล รอสส์ จูเนียร์ รมว.พาณิชย์สหรัฐอเมริกา เข้าพบนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี โดยนายวิลเบอร์ กล่าวภายหลังการหารือว่าเป็นการสรุปผลการหารือระหว่างนักธุรกิจและสหรัฐฯ ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ถือเป็นการพบปะที่ดีมาก มีการพูดคุยเรื่องดีๆ หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้าการลงทุน รวมถึงความสัมพันธ์ที่พัฒนาตัวดีขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการเตรียมการก่อนการพบปะกันของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า ถือเป็นจุดสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
ด้านนายสมคิด ระบุว่า บรรยากาศการพบปะกันเป็นไปด้วยดีมาก การที่รัฐมนตรีสหรัฐฯ เดินทางมาครั้งนี้ เพื่อมาดูลู่ทางการแสวงหาความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนในอนาคต การหารือวันนี้ได้พูดคุยหลายประเด็น และการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปสหรัฐจึงถือเป็นโอกาสดีที่จะวางแนวทางในเรื่องความร่วมมือในอนาคตข้างหน้า ซึ่งก็ได้เรียนไปว่าไทยจะเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ดังนั้นจึงอยากให้มีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้าการลงทุน ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การศึกษา ซึ่งทุกเรื่องไทยยังต้องการการสนับสนุนจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะเรื่องของเทคโนโลยีชั้นสูง การศึกษา วิทยาศาสตร์ ซึ่งไทยขาดแคลนอยู่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ จัดทำประเด็นหารือ
รองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-สหรัฐฯ เพื่อใช้เป็นช่องทางโดยตรงในการหารือร่วมกันระหว่าง 2 ประเทศ เช่นเดียวกันกับการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-จีน และคณะกรรมการร่วมไทย-ญี่ปุ่น ที่ไม่ต้องเป็นการหารือผ่านเวทีอาเซียน เพราะจะทำให้ประเด็นการหารือกว้างเกินไป โดยส่วนตัวอยากให้อนาคตมีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้เราได้ทราบถึงความต้องการว่าแต่ละกระทรวงต้องการความช่วยเหลือในด้านใดจากสหรัฐฯ
พร้อมกันนี้ นายสมคิด ยังได้ใช้โอกาสนี้ได้เชิญชวนให้สหรัฐฯ เข้ามาลงทุนธุรกิจในประเทศไทย โดยสหรัฐฯ สนใจเรื่องหัวรถจักร และรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งผู้บริหาร บริษัท เจเนอรัล อิเล็กทริค และผู้บริหารของบริษัทฟอร์ด มอเตอร์ ได้ร่วมคณะเดินทางมาในครั้งนี้ด้วย ซึ่งได้ยืนยันกับสหรัฐฯ ไปว่าไทยมีเทคโนโลยีและพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายในการเข้าร่วมประมูล