นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานผลการดำเนินการเกี่ยวกับมาตรการสนับสนุนการผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ประกอบด้วย มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อสร้างอุปทานและมาตรการกระตุ้นตลาดภายในประเทศ
สำหรับมาตรการสร้างอุปทาน ทางกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างยกร่างประกาศกระทรวงการคลังเพื่อยกเว้นอากรสำหรับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และร่างประกาศกรมศุลกากรเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และพิธีการศุลกากร
ด้านกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงอุตสาหกรรมได้ประชุมหารือกันเพื่อพิจารณาแนวทางแก้ไขข้อผูกพันภายใต้ข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน(ACFTA) เนื่องจากเห็นว่ามีความจำเป็นในการพิจารณาขอแก้ไขข้อผูกพันภายใต้ ACFTA สำหรับอัตราภาษีนำเข้าภายใต้พิกัด 8703.80 ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติมและเตรียมการสำรับการเจรจาต่อไป
อย่างไรก็ตาม การแก้ไขข้อผูกพันดังกล่าวต้องได้รับความเห็นชอบจากประเทศภาคี จึงยังไม่สามารถระบุเวลาที่คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ โดยจะขึ้นอยู่กับผลการเจรจาระหว่างไทยกับจีน
ส่วนมาตรการกระตุ้นตลาดในประเทศ ทางสำนักงบประมาณอยู่ระหว่างสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับการจำหน่ายรถยนต์นั่งไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ ที่ขณะนี้มีแผนจะนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศ จำนวน 3 ยี่ห้อ ได้แก่ Nissan Leaf, Tesla และ FOMM โดยจะพิจารณากำหนดเข้าบัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์หรือบัญชีนวัตกรรมไทยต่อไป พร้อมทั้งสนับสนุนให้เพิ่มรายการรถประจำตำแหน่งที่จะเพิ่มสัดส่วนการใช้รถยนต์นั่งไฟฟ้าในส่วนราชการ
ขณะที่กระทรวงคมนาคม บมจ.การท่าอากาศยานไทย (AOT) อยู่ระหว่างรอให้สัญญาเช่ารถยนต์ (ลีมูซีน) ฉบับเก่าหมดลงในเดือน มี.ค.61 โดยบริษัทเตรียมเพิ่มปริมาณรถไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอินและรถไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ในสัดส่วนที่มากขึ้นในสัญญาใหม่
พร้อมกันนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้กำหนดพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดเป็นพื้นที่เป้าหมายเริ่มต้น รวมทั้งการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จะพิจารณารถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในภารกิจเพิ่มขึ้น และจะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในนิคมฯ นำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งานมากขึ้นด้วย
และ กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการของบประมาณจากกองทุนเพื่อการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการนำรถแท็กซี่มาปรับเปลี่ยนเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพื่อต่อยอดความรู้ในลักษณะเดียวกับรถตุ๊กตุ๊ก ส่วนกระทรวงวัฒนธรรมได้นำรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาให้บริการกับนักท่องเที่ยวในเขตอุทยานประวัติศาสตร์ และจะจัดหารถเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ทางกระทรวงพลังงาน กระทรวงคมนาคม การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) อยู่ระหว่างรวบรวมขอ้มูลสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่มีการติดตั้งไปแล้วและเตรียมที่จะติดตั้งในอนาคต เพื่อพิจารณาถึงความครอบคลุมพื้นที่เป้าหมายและถนนหลักที่เชื่อมต่อพื้นที่เป้าหมายเพื่อพิจารณาของบประมาณจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานปี 61 ต่อไป