นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.46 บาท/ดอลลาร์ ใกล้ เคียงกับช่วงเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.45 บาท/ดอลลาร์
วันนี้คาดว่าเงินบาทจะทรงตัวและอยู่ในกรอบแคบๆ ประกอบกับยังไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ที่จะเข้ามามีผลต่อค่าเงิน โดยวันนี้ ตลาดหุ้นหลายแห่งในเอเชียปิดทำการ ในขณะที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือน ก.ย.ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกใน รอบ 7 ปี
"วันนี้บาทคงพักตัว แกว่งในกรอบไม่เกิน 10 สตางค์ เพราะหลายตลาดในเอเชียปิดทำการ เช่น ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เกาหลี ใต้ และไต้หวัน" นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.38-33.48 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.65 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 112.94 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินเยนอยู่ที่ระดับ 1.1732 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1732 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.2420 บาท/
ดอลลาร์
- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้(9-13 ต.ค.)ที่ 33.30-33.60 บาทต่อ
ดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตาการปรับตัวของตลาดเงินตลาดทุนในช่วงต้นสัปดาห์ที่ตอบรับสัญญาณจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร
ของสหรัฐฯ ขณะที่จุดสนใจในระหว่างสัปดาห์น่าจะอยู่ที่ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในระหว่าง
สัปดาห์ ได้แก่ ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.ย. สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนส.ค. และดัชนีความเชื่อ
มั่นผู้บริโภคเบื้องต้นสำหรับเดือนต.ค.
นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามรายงานการประชุมเฟด (ประชุมเมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.) และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ ระดับสูงของธนาคารกลางยุโรปด้วยเช่นกัน
- แหล่งข่าวจากธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในเดือน พ.ย.นี้ ธนาคารจะออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ สกุลเงินบาท เพื่อนับเป็น
เงินกองทุนขั้นที่ 2 วงเงินประมาณ 2 หมื่นล้านบาท อายุ 10 ปี นับจากวันออกตราสาร และให้สิทธิธนาคารสามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ดัง
กล่าวทั้งจำนวนก่อนวันครบกำหนดได้หลังจาก 5 ปี นับจากวันออกตราสาร สำหรับอัตราดอกเบี้ยจะกำหนดในช่วง 1-2 สัปดาห์ก่อน
การเสนอขาย
- กรมธนารักษ์กำลังเร่งประเมินราคาที่ดินใหม่ เพื่อรองรับกับการใช้พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่มีผลบังคับใช้
ในปี 62 คาดว่าจะประเมินที่ดินใหม่ได้ครบทั้ง 32 ล้านแปลงทั่วประเทศได้ภายในสิ้นปี 60 นี้แน่นอน โดยหลังจากประเมินเสร็จจะส่ง
บัญชีประเมินราคาที่ดินรายแปลงรอบปี 59-62 ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ 3,853 แห่ง ซึ่งเป็นผู้เก็บภาษี
ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ไปใช้เป็นฐานในการคำนวณเก็บภาษีต่อไป
- คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 61 ตามกรอบวง
เงินงบประมาณรวม 2.9 ล้านล้านบาท โดยเป็นงบขาดดุล 450,000 ล้านบาท ตั้งเป้าการเบิกจ่ายงบประมาณในภาพรวมให้ได้ไม่ต่ำ
กว่า 2.78 ล้านล้านบาท หรือ 96% ของงบประมาณและรายจ่ายลงทุนไม่น้อยกว่า 580,000 ล้านบาท จากกรอบงบประมาณลงทุน
660,000 ล้านบาท คิดเป็น 88% ของงบประมาณเพื่อการลงทุนซึ่งการจัดทำงบประมาณนี้อยู่ภายใต้การคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขยาย
ตัว 3.3-4.3% และอัตราเงินเฟ้ออยู่ในช่วง 1.5-2.5% ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 8.4% ของจีดีพี
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) อยู่ระหว่างศึกษาผลกระทบของการใช้เครื่องจักรกลและปัญญาประดิษฐ์ทดแทนแรง
งาน โดยเฉพาะผลกระทบของแรงงานที่มีรายได้น้อยและมีทักษะไม่สูง เนื่องจากการศึกษาล่าสุดของ ธปท.เรื่อง "เศรษฐกิจกระจาย
ตัวมากขึ้นหรือไม่ ในมุมมองของตลาดแรงงาน" พบว่าลูกจ้างนอกภาคเกษตรกลุ่มรายได้ปานกลางหรือรายได้ตั้งแต่ 10,000-
30,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป ซึ่งเป็นแรงงานที่มีทักษะยังมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นและมีโอกาสหางานใหม่ได้ ขณะที่ลูกจ้างกลุ่มที่มีรายได้
ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน และสูงกว่า 30,000 บาทต่อเดือน การจ้างงานยังลดลง
- กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรลดลง 33,000 ตำแหน่งใน
เดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.2% จาก 4.4% ในเดือนส.
ค. โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนก.ย.ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.2553
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (6 ต.ค.)
หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ที่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ขณะที่นักวิเคราะห์
มองว่า ตัวเลขการจ้างงานที่ทรุดตัวลงดังกล่าวเป็นผลกระทบจากปัจจัยเพียงชั่วคราวของพายุเฮอร์ริเคนเท่านั้น
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (6 ต.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของสกุลเงิน
ดอลลาร์ ภายหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ที่ลดลงครั้งแรกในรอบ 7 ปี แต่นัก
วิเคราะห์มองว่า ตัวเลขการจ้างงานที่ทรุดตัวลงดังกล่าวเป็นผลกระทบจากปัจจัยชั่วคราวของพายุเฮอร์ริเคน
- นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำวันที่ 19-20 ก.ย.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคาร
กลางสหรัฐ (FOMC) ในวันพุธนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อจับสัญญาณว่า คณะกรรมการ FOMC จะหารือกันเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยในปีนี้หรือไม่
- นักลงทุนจับตาดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ย.ของจีน ซึ่งมาร์กิตและไฉซินจะเปิดเผยในช่วง
เช้าวันนี้ นอกจากนี้ จะมีการเปิดเผยดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเดือนก.ย.เช่นกัน โดยนักลงทุนต้องการจับสัญญาณ
แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน
- ตลาดการเงินจับตาการประชุมรัฐมนตรีคลังในกลุ่มยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป ในวันนี้ รวมทั้งการประชุมประจำปีของ
ธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันนี้เช่นกัน