นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้มีนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช ราว 30 บริษัท สนใจลงทุนนำระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์เข้ามาปรับเปลี่ยนกระบวนการการผลิต ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล โดยนักลงทุนได้เข้ามารับฟังสิทธิประโยชน์จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และคณะกรรมการนโยบายระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เกี่ยวกับการดำเนินการลงทุน ก่อนจะนำไปประเมินการลงทุนอีกครั้ง
ส่วนกรณีที่ผู้บริหาร บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ได้เตรียมเชิญตนและคณะกรรมการ EEC ลงพื้นที่เพื่อพบปะนักลงทุนในพื้นที่นั้น ก็มีความยินดีและพร้อมที่จะลงพื้นที่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและเป็นการเตรียมความพร้อมสู่การขับเคลื่อน EEC และไทยแลนด์ 4.0
ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมได้เร่งเตรียมความพร้อมและพัฒนาพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พร้อมให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุนเพื่อขับเคลี่อนประเทศไทยให้ก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ผ่านการลงทุนในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มผลิตภาพการผลิต (Productivity) ของประเทศ และเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมอนาคตอื่น ๆ อีก 9 อุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC โดยสอดรับกับแนวคิดไทยแลนด์ 4.0 ที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากการพึ่งพาแรงงานไปสู่การผลิตสมัยใหม่ด้วยองค์ความรู้การผลิตขั้นสูงที่มีมูลค่าเพิ่ม โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่จะทำให้เกิดการลงทุนใช้หุ่นยนต์ 1.2 หมื่นล้านบาทในปี 60 และคาดว่าจะมีการขยายการลงทุนได้กว่า 2 แสนล้านบาท ภายใน 5 ปี
นายอุตตม กล่าวถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติว่า จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตและการบริหารในภาคอุตสาหกรรม โดยจะเป็นอุตสาหกรรมที่รองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 และเป็นบรรทัดฐานของกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรมในอนาคต ซึ่งการพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติจะทำให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจได้จากความรู้ทางด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ และประเทศไทยจะพัฒนาให้เป็นเจ้าของเทคโนโลยีและมีแบรนด์เป็นของตัวเองได้
ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังได้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติอย่างเป็นรูปธรรม และสร้างความมั่นใจให้แก่ภาคเอกชน ซึ่งได้ผลักดันมาตรการสนับสนุนและดำเนินการเพื่อสร้างการรองรับความพร้อมให้แก่ภาคเอกชนอย่างเต็มที่
"กระทรวงอุตสาหกรรม คาดหวังให้เกิดการลงทุนจากภาคเอกชนเพื่อร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้" รมว.อุตสาหกรรมกล่าว
พร้อมระบุว่า การหารือร่วมกับภาคเอกชนในวันนี้ นำโดยกลุ่ม WHA และคณะผู้บริหาร นักธุรกิจ จำนวน 44 คน จาก 29 บริษัทชั้นนำในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราช จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่จะลงทุนในคลัสเตอร์อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในพื้นที่ EEC เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0
ด้านนางสาวจรีพร จารุกรสกุล ปรานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม WHA เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้เป็นการร่วมหารือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการลงทุนใน EEC ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 เพื่อนำไปสูการพัฒนา ปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงไปสู่อุตสาหกรรมการผลิตแบบอัตโนมัติและอุตสาหกรรมการผลิตหุ่นยนต์ โดยกลุ่มของบริษัทมีนิคมอุตสาหกรรมที่พร้อมรองรับการลงทุนเกี่ยวกับการอุตสาหกรรมการผลิตหุ่นยนต์และการผลิตแบบอัตโนมัติ ที่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบ New S-Curve จำนวน 8 นิคมอุตสากรรม ในจ.ชลบุรี และจ.ระยอง ภายใต้นิคมอุตสาหกรรมเหมราช
ขณะเดียวกันบริษัทมีลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชในพื้นที่ EEC ทั้ง 8 แห่ง ที่มีความสนใจที่จะลงทุนทางด้านอุตสาหกรรมการผลิตหุ่นยนต์และการผลิตแบบอัตโนมัติจำนวน 400 ราย จากทั้งหมด 800 ราย ซึ่งทาง WHA จะนำลูกค้าดังกล่าวไปพบรมว.อุตสาหกรรม และร่วมกันเดินทางไปลงพื้นที่ร่วมกัน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการลงทุนปรับเปลี่ยนจากการผลิตแบบเครื่องจักร เป็นรูปแบบการผลิตแบบอัตโนมัติ
“การประชุมหารือร่วมกันในครั้งนี้เป็นการกระตุ้นดีมานด์ เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตแบบอัตโนมัติ ที่ควบคู่ไปกับการลงทุนผลิตหุ่นยนต์ เพื่อทำให้การผลิตของโรงงานต่างเกิด Productivity มากขึ้น ซึ่งทาง WHA ได้มีลูกค้าที่อยู่ในนิคมเหมราชในจ.ชลบุรี และจ.ระยอง ที่สนใจทั้งหมด 400 ราย จาก 800 ราย ที่จะลงทุนปรับเปลี่ยนการผลิตแบบอัตโนมัติ ซึ่งคาดว่าจะมีการลงทุนในการปรับเปลี่ยนระบบการผลิตและการพัฒนาการผลิตหุ่นยนต์ของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมของ WHA รวมกว่าหลายหมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเห็นการความคืบหน้ามากขึ้นในปี 61"นางสาวจรีพร กล่าว