นายพิชิต อรุณพัลลภ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association: HBA) กล่าวภายหลังลงนามความร่วมมือ (MOU) กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจและส่งเสริมการตลาด เพื่อดำเนินโครงการสินเชื่อปลูกสร้างอาคาร รวมถึงสินเชื่อพิเศษอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้แก่ลูกค้าที่ปลูกสร้างบ้านของสมาคมฯ หรือภายใต้บริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ พร้อมทั้งการสนับสนุนโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และข้อมูลต่างๆ ผ่านช่องทางของธนาคารฯ และสมาคมฯ
นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า แม้กลุ่มผู้บริโภคที่ปลูกสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านจะมีเงินออมส่วนหนึ่ง แต่ก็มีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยกว่า 30-40% ต้องการขอสินเชื่อกับธนาคาร และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่มที่มีความต้องการสร้างบ้านแท้จริง มีที่ดินอยู่แล้ว แผนการสร้างบ้านก็เป็นความต้องการแท้จริงไม่ใช่การเก็งกำไร ดังนั้นความต้องการที่แท้จริงกลุ่มนี้ไม่หนีไปไหน เหล่านี้เป็นปัจจัยบวกจากสถาบันการเงินที่ให้การสนับสนุนสินเชื่อสร้างบ้าน
สำหรับวงเงินที่ผู้บริโภคต้องการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินนั้น ส่วนใหญ่อยู่ประมาณ 2-5 ล้านบาท ระดับรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 15,001-40,000 บาท คิดเป็นสัดส่วน 32.17% รองลงมาระดับรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 40,001-70,000 บาท และอันดับสามระดับรายได้อยู่ที่ 70,001-100,000 บาทต่อเดือน ซึ่งหากพิจารณาลึกไปในอาชีพแล้วจะพบว่าผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้านบนที่ดินมีหลากหลายทั้งเป็นพนักงานบริษัทเอกชน ผู้ประกอบการเจ้าของธุรกิจ รับราชการ/รัฐวิสาหกิจ เป็นต้น
"ผู้บริโภคสร้างบ้านบนที่ดินตัวเองมีเครดิตชั้นดี ได้รับดอกเบี้ยและแพ็กเกจพิเศษ โดยสถิติที่ผ่านมาเป็นกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีหนี้เสียหรือ NPL เมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อคอนโดมิเนียมจะเห็นว่ามียอดปฏิเสธสินเชื่อสูงมากตั้งแต่ปีที่แล้วต่อเนื่องถึงปัจจุบัน" นายพิชิต กล่าว