นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการให้คณะรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย ไปดำเนินการเพิ่มพื้นที่ทำมาค้าขายทั่วประเทศให้ประชาชน ทั้งเกษตรกร โอท็อป สินค้าเอสเอ็มอี สินค้าวิสาหกิจชุมชน ร้านอาหาร หาบเร่แผงลอย สามารถมีพื้นที่ในการขายสินค้า ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้หารือกับหน่วยงานต่างๆ และได้พิจารณาจัดตั้งโครงการตลาดประชารัฐไทยช่วยไทยรวม 8 ประเภท จำนวน 6,447 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ
จุดประสงค์เพื่อให้ประชาชนมีพื้นที่ค้าขาย ให้ผู้ซื้อและผู้ขายมาเจอกัน ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายไม่มาก โดยอาจจะเป็นเพียงค่าใช้จ่ายของธนารักษ์ ค่าธุรการ ค่าขยะ ค่าน้ำประปา โดยรัฐได้จัดเตรียมงบสำหรับในส่วนนี้ไว้ประมาณ 562 ล้านบาท เป็นงบปกติของงบประมาณปี 61/62 และสามารถขอเพิ่มเติมได้ตามความจำเป็น คาดว่าจะมีผู้ค้าหน้าใหม่เกิดขึ้นจากโครงการนี้ประมาณ 102,844 ราย
สำหรับตลาด 8 ประเภท ได้แก่ 1.ตลาดประชารัฐ Green Market ดำเนินการองค์การตลาดกระทรวงมหาดไทย เป็นพื้นที่ตลาดใหม่และขยายพื้นที่ตลาดเดิม กระจายอยู่ 3 มุมเมืองคือ ตลาดตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ตลาดบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ตลาดลำพูน จ.ลำพูน โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือผู้ค้ารายใหม่ ได้แก่ กลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการอาหาร 2.ตลาดประชารัฐไทยช่วยไทย คนไทยยิ้มได้ ดำเนินการกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นการขยายพื้นที่ตลาดเดิมที่มีอยู่ 2,155 แห่ง ครอบคลุมทุกจังหวัดและอำเภอ เป็นการเพิ่มทั้งพื้นที่และวันดำเนินการ จากทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ เป็นอีกอย่างน้อย 1 วัน โดยรวมกับสินค้าธงฟ้า กระทรวงพาณิชย์ โดยมีกลุ่มเป้าหมายรายใหม่ ได้แก่ กลุ่มเกษตรกร กลุ่มเครือข่ายโอทอป ร้านอาหาร หาบเร่ แผงลอย
3.ตลาดประชารัฐท้องถิ่นสุขใจ ดำเนินการโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นการขยายพื้นที่ตลาดเดิม จำนวน 3,822 แห่ง และเพิ่มวันทำการ โดยเฉพาะตลาดถนนคนเดินเดิม โดยมีกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ค้ารายใหม่ได้แก่ เกษตรกรในพื้นที่ และกลุ่มประมงพื้นบ้าน 4.ตลาดประชารัฐ กทม.คืนความสุข ดำเนินการฌดยกรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ตลาดใหม่ เปิดแล้ว 5 แห่ง จากเป้าหมาย 14 แห่ง ได้แก่ ใต้ทางด่วนพงษ์พระราม, หน้าภัตตาคารกุ้งหลวง, บริเวณห้างสรรพสินค้าโลตัสใกล้สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน, ลานข้างสวนลุมพินี, พื้นที่ตรงข้ามวัดสุทธิวราราม ซึ่งเป็นการรองรับผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อนไม่ทีสถานที่ค้าขาย
5.ตลาดประชารัฐของดีจังหวัด ดำเนินการสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยร่วมกับบริษัทประชารัฐรักสามัคคี เปิดพื้นที่ตลาดใหม่หน้าศาลากลางจังหวัด ที่ว่ากาอำเภอ หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ ประเภทสินค้าเป็นสินค้าตามฤดูกาล สินค้าที่มีความโดดเด่นในพื้นที่และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด โดยมีเป้าหมายกลุ่มผู้ค้ารายใหม่ ได้แก่ กลุ่มเกษตรกร กลุ่มผู้มีรายได้น้อยกลุ่มเอสเอ็มอีในพื้นที่ 6.ตลาดประชารัฐโมเดิร์นเทรด ดำเนินการโดยจังหวัด กระทรวงพาณิชย์ และ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี ขอความร่วมมือห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการดำเนินการในลักษณะสร้างคุณค่าร่วมกับสังคม โดยมีกลุ่มเป้าหมายผู้ค้ารายใหม่ ได้แก่ ผู้ประกอบการสินค้าเกษตร ผู้ประกอบการระดับชุมชน
7.ตลาดนัดประชารัฐของดีวิถีชุมชน ธ.ก.ส. ดำเนินการโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพิ่มพื้นที่บริเวณหน้า ธ.ก.ส. จังหวัด จำนวน 146 แห่ง และสำนักงานใหญ่ รวมเป็น 147 แห่ง โดยเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ค้ารายใหม่ ได้แก่ กลุ่ม เกษตรกร กลุ่มผู้มีรายได้น้อยในการค้าขาย และ 8.ตลาดประชารัฐต้องชม ดำเนินการโดยกระทรวงพาณิชย์ เป็นการเพิ่มพื้นที่ตลาดใหม่และขยายพื้นที่ตลาดเดิมในรูปแบบตลาดส่งเสริมการจัดการตลาดชุมชนและการท่องเที่ยวชุมชน การกระตุ้นการค้าขาย โดยมีเป้าหมายกลุ่มผู้ค้ารายใหม่ ได้แก่ กลุ่มเกษตรกร กลุ่มร้านอาหาร ผู้ประกอบการในชุมชน
"จะเริ่มดำเนินการพร้อมกันในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ โดยผู้สนใจสามารถมาลงทะเบียนได้ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ โดยนายกรัฐมนตรีอยากให้ทดสอบทำไปก่อนถ้าประสบความสำเร็จดีก็อาจจะขยายผลเพิ่มเติม เพราะอยากให้เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ สินค้าเกษตรอินทรีย์ สินค้านวัตกรรมเกษตร สินค้าประชารัฐ อยากให้นำมาขายในพื้นที่ดังกล่าว โดยหวังให้ผู้ประกอบการ พัฒนา ยกระดับตัวเองขึ้นมาเพื่อการแข่งขัน...โดยยึดหลักของการมาเจอกันตามธรรมชาติ หมายถึง เป็นพื้นที่ที่คนนิยมมากันอยู่แล้ว ไม่ได้สร้างตลาดใหม่ขึ้นมาแล้วบังคับให้คนไปเจอกันซึ่งหลายครั้งไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งตลาดประชารัฐทั้ง 8 ประเภทนี้มีการสำรวจความต้องการมาแล้วว่ามีความต้องการให้แต่ละตลาดเปิดแผงให้ผู้ค้าเพิ่มอย่างน้อย 10-20 รายต่อแห่ง ส่วนกำลังซื้อมั่นใจว่ามี แต่ต้องดูยอดการลงทะเบียนก่อน" นายกอบศักดิ์ กล่าว