นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ก.ย.60 อยู่ที่ระดับ 86.7 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 85.0 ในเดือน ส.ค.60 ทั้งนี้ค่าดัชนีฯที่เพิ่มขึ้นเกิดจากองค์ประกอบยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิตและผลประกอบการ
อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันสะท้อนมุมมองในเชิงบวกของผู้ประกอบการที่มีต่อเศรษฐกิจโดยรวมเห็นได้จากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเพื่อส่งมอบในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
ขณะที่การบริโภคภายในประเทศเริ่มมีสัญญาณที่ดีสะท้อนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าโดยเฉพาะจากผู้ประกอบการขนาดย่อมที่ค่าดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรก ในรอบ 6 เดือนสอดคล้องกับการที่ผู้ประกอบการได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อปัจจัยเสี่ยงในด้านกำลังซื้อของภาคเกษตรและปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 102.9 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 101.9 ในเดือนส.ค. เนื่องจากผู้ประกอบการเห็นว่าเศรษฐกิจไทยมีทิศทางขยายตัวต่อเนื่องจากการบริโภคภายในประเทศ การส่งออก การลงทุนและการใช้จ่ายของภาครัฐ
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการประกอบกิจการในเดือน ก.ย.60 พบว่า ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้น ได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยน ราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ส่วนปัจจัยที่มีความกังวลลดลง ได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจโลก สถานการณ์การเมืองในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการที่มีต่อภาครัฐในเดือน ก.ย. คือ ต้องการให้ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ พร้อมทั้งส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs นำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิต เพื่อลดต้นทุนและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า รวมถึงกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) สินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค และส่งเสริมผู้ประกอบการขยายการลงทุนไปยังกลุ่มประเทศ CLMV เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีแนวโน้มเติบโตสูงในอนาคต