น.ส.กฤตยาพร ทัพภะทัต รองผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า นิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ เป็นอีกนิคมฯหนึ่งที่อยู่ในแถบปริมณฑล และถืออีกพื้นที่หนึ่งที่อ่อนไหว ที่ต้องมีแผนเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเป็นพื้นที่ที่พบปริมาณน้ำฝนสะสมต่อเนื่องและอยู่ใกล้ระดับน้ำทะเลทำให้เกิดน้ำทะเลหนุนในบางช่วง ประกอบกับอยู่ใกล้ชุมชน ดังนั้น กนอ.จึงได้ลงพื้นที่เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและชุมชนโดยรอบในความพร้อมในมาตรการรองรับและป้องกันภาวะน้ำท่วม
“ปัจจุบันมีชุมชนอยู่โดยรอบนิคมอุตสาหกรรมบางปูจำนวนมาก ซึ่งจากปริมาณน้ำที่สะสมช่วงที่ผ่านมา กนอ. ได้นำเครื่องสูบน้ำเข้าไปเพื่อลดระดับน้ำในพื้นที่ นิคมฯ อย่างไรก็ตามเพื่อให้ชุมชนโดยรอบเข้าใจถึงปฏิบัติการของ กนอ.ว่าการระบายน้ำจะไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบแต่อย่างใด"น.ส.กฤตยาพร กล่าว
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ กนอ.ได้ยกระดับเฝ้าระวังของศูนย์ปฏิบัติการ กนอ.ที่สำนักงานใหญ่ตลอด 24 ชั่วโมงในการติดตามและแจ้งข้อมูลสถานการณ์น้ำโดยเฉพาะทั้งระบบออฟไลน์ และออนไลน์ ซึ่งล่าสุดยังได้มีการสื่อสารทางLine ที่ทำให้การติดต่อเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพโดยสามารถเชื่อมโยงกับทุกนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ
สำหรับแผนป้องกันน้ำท่วมของนิคมอุตสาหกรรมบางปู จะใช้รูปแบบการป้องกันที่คล้ายกับพื้นที่นิคมฯ อื่นๆทั่วประเทศ ได้แก่ 1) จัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเวรตลอด 24 ชั่วโมง 2) ติดตามข้อมูล ข่าวสาร และพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่อง 3) ให้มีการสื่อสารข้อมูลการตรวจสอบระดับน้ำ/สถานการณ์ของน้ำรอบนิคมฯให้แก่ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมอย่างสม่ำเสมอ 4) สำรวจและเสริมความมั่นคงแข็งแรงของคันดินป้องกันน้ำท่วม 5) เตรียมความพร้อมระบบป้องกันน้ำท่วม เครื่องสูบน้ำระบายน้ำและเครื่องจักรอุปกรณ์ 6) จัดหาเครื่องสูบน้ำสำรอง เครื่องกำเนิดไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง กระสอบทราย และอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมใช้งาน
7) ขุดลอกและพร่องน้ำในลำรางระบายน้ำและบ่อเก็บกักน้ำฝนภายในนิคมฯ โดยระวังไม่ให้กระทบต่อชุมชนใกล้เคียง 8) ยังให้มีการตรวจสอบระดับน้ำของจุดเฝ้าระวังโดยรอบพื้นที่ และประสานงานกับกรมชลประทาน/กรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด 9) บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมชลประทาน ทหาร และท้องถิ่น เพื่อรองรับสถานการณ์ 10) ฝึกซ้อมแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉินกรณีเกิดเหตุอุทกภัยของนิคมฯ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เป็นประจำทุกปี 11) ตรวจสอบคันดินรอบนิคมอุตสาหกรรมให้อยู่ในสภาพที่ได้มาตรฐาน 12) จัดเตรียมอุปกรณ์สำรองฉุกเฉิน เช่น เขื่อนกั้นน้ำติดตั้งเร็ว มีความสูงประมาณ 1.20 เมตร มีความยาวประมาณ 20 กิโลเมตร
ขณะเดียวกันยังได้ให้นิคมฯบางปูติดตามปริมาณน้ำใกล้ชิดรวมทั้งได้ให้ปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันอุทกภัยในเบื้องต้น เช่น เตรียมเครื่องสูบน้ำสำรอง สำรวจรางระบายน้ำให้มีความคล่องตัว และสำรวจความแข็งแรงของเขื่อนป้องกันน้ำท่วมรอบนิคมฯ เป็นต้น
“จากการติดสถานการณ์พยากรณ์อากาศของ กรมอุตุนิยมวิทยามาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงระหว่างสัปดาห์นี้ วันที่ 24-28 ต.ค.60 พบว่าในพื้นที่กรุงเทพและปริมลฑล จะมีปริมาณฝนลดลงเหลือเพียงร้อยละ 10 ของพื้นที่เท่านั้น จึงมั่นใจว่านิคมฯบางปูจะไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมขังจากที่เคยประสบปัญหาในช่วงปี 59 เพราะน้ำฝนที่ตกหนักยาวนานหลายชั่วโมงทำให้การระบายน้ำไม่ทัน"น.ส.กฤตยาพรกล่าว