นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดประจำปีงบประมาณ 2560 (ต.ค.59-ก.ย.60) รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังรวมทั้งสิ้น 2,348,805 ล้านบาท ขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณจำนวน 2,890,545 ล้านบาท ทั้งนี้รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลจำนวน 552,922 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน ก.ย.60 มีจำนวนทั้งสิ้น 523,758 ล้านบาท
สำหรับฐานะการคลังเดือน ก.ย.60 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังจำนวน 263,274 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีก่อนจำนวน 1,176 ล้านบาท หรือ 0.4% ขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้นจำนวน 211,250 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีก่อนจำนวน 4,605 ล้านบาท หรือ 2.1% โดยเป็นรายจ่ายปีปัจจุบันจำนวน 199,249 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 1.8% ประกอบด้วย รายจ่ายประจำจำนวน 149,238 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 4.0% และรายจ่ายลงทุน 50,011 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 5.4% และการเบิกจ่ายเงินจากงบประมาณปีก่อนจำนวน 12,001 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 7.3%
โดยการเบิกจ่ายเงินงบประมาณที่สำคัญในเดือน ก.ย.60 ได้แก่ รายจ่ายชำระหนี้ของกระทรวงการคลังจำนวน 13,492 ล้านบาท งบรายจ่ายอื่นของกระทรวงกลาโหมจำนวน 8,033 ล้านบาท และเงินอุดหนุนของกระทรวงศึกษาธิการจำนวน 5,975 ล้านบาท
ดุลการคลังรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดจากรายได้นำส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลดังกล่าวส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือน ก.ย.60 เกินดุลจำนวน 52,024 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่เกินดุลจำนวน 66,101 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการถอนคืนรายได้ภาษีมูลค่าเพิ่มนำฝากเข้าบัญชีเงินฝากกรมสรรพากรเพื่อจัดสรรให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนฯ งวด 10-12 ของปีงบประมาณ 2560 จำนวน 30,220 ล้านบาท รายจ่ายที่เหลื่อมจ่ายไปในเดือน ต.ค.60 จำนวน 20,101 ล้านบาท และการประมูลตั๋วเงินคลังสุทธิจำนวน 15,000 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสดก่อนกู้เกินดุลจำนวน 118,125 ล้านบาท โดยรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลจำนวน 90,241 ล้านบาท ทำให้ดุลเงินสด (หลังกู้ชดเชยการขาดดุล) เกินดุลจำนวน 208,366 ล้านบาท
"ฐานะการคลังในปีงบประมาณ 2560 ยังคงมีความเข้มแข็งโดยมีระดับเงินคงคลังที่มากกว่า 5 แสนล้านบาท และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 82,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อการดำเนินนโยบายการคลังของรัฐบาลในปีงบประมาณต่อไป โดยกระทรวงการคลังจะเร่งรัดให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเร่งเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายเพื่อให้มีเม็ดเงินอัดฉีดลงสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและสนับสนุนให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้" นายสุวิชญ์ กล่าว