กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.15-33.55 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 33.30 บาท/ดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยยังคงปรับสูงขึ้น โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรรัฐบาลไทยมูลค่า 3.6 พันล้านบาท และ 4.9 พันล้านบาท ตามลำดับ ในสัปดาห์ที่แล้ว เงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก หลังรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด และความหวังที่ประธานาธิบดีทรัมป์อาจเลือกนายจอห์น เทย์เลอร์ ผู้สมัครสายเหยี่ยวที่เน้นนโยบายการขึ้นดอกเบี้ย มาเป็นประธานเฟดคนใหม่ ส่วนยูโรอ่อนค่าสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ออกแถลงการณ์ว่าอาจยืดระยะเวลาการซื้อสินทรัพย์ออกไปหลังเดือนกันยายน 2561 รวมถึงสถานการณ์ความไม่สงบหลังแคว้นกาตาลุญญาประกาศแยกตัวเป็นอิสระจากสเปน
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ฯ มองว่า ตลาดจะจับตาปฏิกิริยาจากธนาคารกลางทั่วโลกต่อผลการเลือกประธานเฟดคนใหม่ที่จะประกาศอย่างเป็นทางการในสัปดาห์นี้ โดยดอลลาร์อ่อนค่าลงในช่วงเปิดการซื้อขายเช้านี้ หลังมีกระแสข่าวประธานาธิบดีทรัมป์อาจแต่งตั้งนายเจอโรม พาวเวลล์ ผู้สมัครที่สนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป มารับตำแหน่งต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน หากนายเพาเวลล์ได้รับเลือกตามที่เราและตลาดคาดไว้ ดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลง ในทางกลับกัน หากนายจอห์น เทย์เลอร์ ได้รับเลือก ดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะเดียวกัน ทิศทางตลาดในช่วงนี้จะยังขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญชุดใหม่ ซึ่งจะมีผลต่อการปรับสมดุลนโยบายการเงินของเฟด รวมถึงของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในส่วนตัวเลขเศรษฐกิจไทย ตลาดจะจับตามองทิศทางดัชนีราคาผู้บริโภค แม้เงินเฟ้อน่าจะยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้นอกจากเฟด ตลาดจะจับตาดูความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) และธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ที่จะมีการประชุมดอกเบี้ยนโยบายในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ คาดว่าบีโออีจะมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ส่วนบีโอเจและเฟดจะแสดงทิศทางในเชิงบวกโดยรวมต่อสถานการณ์การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แม้ยังคงดอกเบี้ยนโยบายที่อัตราเดิม