นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการพักชำระหนี้ต้นเงินและลดดอกเบี้ยให้เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปี 2559/60 เพิ่มเติมจากเดิมที่มีมติ ครม.ไปเมื่อวันที่ 7 ก.พ.60 จำนวน 212,850 ราย เพิ่มเป็น 260,389 ราย และเพิ่มงบประมาณจำนวน 859.5 ล้านบาท จากเดิม 1,965.5 ล้านบาท/ปี รวมระยะเวลา 2 ปี จำนวน 3,931 ล้านบาท เพิ่มเป็น 2,395.25 ล้านบาท/ปี รวมระยะเวลา 2 ปี จำนวน 4,790.5 ล้านบาท
"เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส.ที่มีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ส่งผลให้ไม่สามารถทำการผลิตหรือผลผลิตได้รับความเสียหาย ทำให้มีรายได้ลงมากกว่าร้อยละ 50 จากรายได้ปกติ" นายณัฐพร กล่าว
โดยจะมีการขยายระยะเวลาชำระคืนต้นเงินกู้ที่เกษตรกรที่อยู่กับ ธ.ก.ส.นับถึงวันที่ 31 ธ.ค.59 ออกไปเป็นระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี นับจากงวดชำระเดิม ไม่จำกัดวงเงินขั้นสูง ดดยเกษตรกรยังต้องชำระดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 1 ม.ค.60 ตามกำหนดชำระเดิม
พร้อมทั้งงดคิดดอกเบี้ยจากเกษตรกร ซึ่งแยกเป็น 2 กรณี คือ กรณีเกษตรกรที่ไม่เป็นหนี้ NPLs งดคิดดอกเบี้ยเป็นเวลา 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.60-31 ธ.ค.61 ในวงเงินกู้รายละไม่เกิน 3 แสนบาท โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส.อัตราร้อยละ 5 ต่อปี และ ธ.ก.ส.รับภาระดอกเบี้ยแทนเกษตรกรในอัตราร้อยละ 2 ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี ซึ่งมีเกษตรกรในกลุ่มนี้ 260,389 ราย ส่วนกรณีที่เป็นหนี้ NPLs งดคิดดอกเบี้ยเป็นเวลา 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.60-31 ธ.ค.61 ในวงเงินกู้รายละไม่เกิน 3 แสนบาท โดย ธ.ก.ส.รับภาระดอกเบี้ยแทนเกษตรกรทั้งหมด ซึ่งมีเกษตรกรในกลุ่มนี้ 13,951 ราย
"เนื่องจากมีจำนวนเกษตรกรที่ไม่เป็นหนี้ NPLs ที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการมีจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้วงเงินพักชำระหนี้ของเกษตรกรที่ไม่เป็นหนี้ NPLs มีจำนวนมากขึ้นจาก 39,310 ล้านบาท เป็น 47,905.05 ล้านบาท ทำให้งบประมาณที่รัฐบาลจะใช้ในการชดเชยอัตราดอกเบี้ยให้แก่ ธ.ก.ส.แทนเกษตรกรที่ไม่เป็นหนี้ NPLs ตามหลักเกณฑ์เดิมมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นไปด้วย" นายณัฐพร กล่าว