เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 647) พ.ศ.2560 โดยพระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
โดยให้ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งมีทุนที่ชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกินห้าล้านบาทและมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกินสามสิบล้านบาท สำหรับเงินได้เป็นจำนวนร้อยละหนึ่งร้อยของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อหรือจ้างทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือค่าใช้บริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ให้แก่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือผู้ให้บริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เฉพาะในส่วนที่ไม่เกินหนึ่งแสนบาท สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2560 แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562
ทั้งนี้ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จะได้รับยกเว้นภาษีดังกล่าว ต้องไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้นตามพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามความในประมวลรัษฎากร ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรส่งเสริมให้ผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมีการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายในการดำเนินงานและบริหารจัดการธุรกิจเพิ่มมากขึ้น สมควรยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายไปเป็นค่าซื้อหรือจ้างทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือค่าใช้บริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
อย่างไรก็ตาม คาดว่ามาตรการดังกล่าว จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ประมาณ 800 ล้านบาทในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี แต่จะเป็นแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการธุรกิจ SME นำโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการเพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินกิจการและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน อีกทั้งยังทำให้ข้อมูลของผู้ประกอบการ SME เข้าสู่ระบบฐานข้อมูลภาครัฐมากขึ้น ซึ่งรัฐสามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในการกำหนดมาตรการหรือกลไกในการส่งเสริมและสนับสนุนด้านต่าง ๆ