นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) กล่าวในงาน "Connecting Asia: New Opportunity for Pragmatic Cooperation Between Thailand and China" ในหัวข้อ "อนาคต CLMVT หลัง One Belt, One Road และ EEC"ว่า แนวโน้มนักลงทุนจีนเริ่มให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มขึ้น เนื่องจากในภูมิภาคนี้มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ถึงแม้จะมีรายได้ไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วในภูมิภาคอื่นๆ
เมื่อมีนโยบาย One Belt, One Road และระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เกิดขึ้น ประเทศไทยจะเป็นอีกประเทศหนึ่งที่นักลงทุนจีนสนใจเข้ามาลงทุน เนื่องจากเป็นประเทศที่อยู่ศูนย์กลางภูมิภาคอาเซียน และสามารถเชื่อมโยงไปสู่ภูมิภาคอื่นๆ ได้สะดวก รวมถึงยังมีทรัพยากรที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์อีกจำนวนมาก
หากมองถึงอนาคตของประเทศที่อยู่ในลุ่มแม่น้ำโขง (CLMVT) คาดว่าประเทศไทยน่าจะเป็นประเทศที่ได้รับประโยชน์สูงสุดในกลุ่มนี้ เพราะไทยมีการลงทุนพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์ในประเทศให้ดีขึ้น เนื่องจากการมีระบบโลจิสติกส์ที่ดีจะช่วยให้ต้นทุนการขนส่งลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และสามารถลดระยะเวลาขนส่งให้สั้นลง อีกทั้งประเทศไทยยังมีแผนพัฒนาท่าอากาศอู่ตะเภาเป็นท่าอากาศยานรองจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อเป็นการเชื่อมโยงระบบการขนส่งใน EEC ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ความน่าสนใจอีกอย่างของไทยยังมาจากมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ที่มีขนาดสูงสุดใน CLMV ที่ 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐต่อปี รวมไปถึงภาคการท่องเที่ยวของไทยยังเป็นปัจจัยหลักทำให้นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุน เพราะสามารถกระจายสินค้าเข้าไปค้าขายยังภูมิภาคต่างๆ ได้ง่าย และมูลค่าการค้าของไทยอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นใน CLMV ที่ 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐต่อปี แสดงถึงปริมาณการค้าขายของไทยที่มีศักยภาพสูง
นายวิกรม คาดว่าจะมีเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติไหลเข้ามาในภูมิภาคมากขึ้น ทำให้มีสภาพคล่องสูง และเป็นการช่วยกระตุ้นอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาค รวมทั้งของประเทศไทยด้วย ซึ่งเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยในระยะยาวจะมีการเติบโตได้ในระดับตัวเลขสองหลัก หากมีการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติเข้ามามากควบคู่ไปกับการลงทุนของภาครัฐและเอกชนในประเทศ ประกอบกับไม่มีการคอรัปชั่นและการทะเลาะเบาะแว้งที่รุนแรงเหมือนในอดีต ในระยะสั้นก็คาดว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสเติบโตได้ถึงปีละ 6%