นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจขยายตัวติดต่อกัน 3 ไตรมาส ทำให้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 60 (ม.ค.-ก.ย.60) ซึ่งเป็นเครื่องชี้การลงทุนของรัฐวิสาหกิจขยายตัวสูงถึง 31% โดยเป็นผลมาจากการเร่งลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่มีงบลงทุนขนาดใหญ่ ได้แก่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.), การเคหะแห่งชาติ (กคช.), การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) , บมจ.ปตท. (ปตท.), การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.), และ บมจ.กสท โทรคมนาคม (กสท.) ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
ผู้อำนวยการ สคร. กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมารัฐวิสาหกิจหลายแห่งได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล โดยมีแผนงาน/โครงการที่สามารถเลื่อนการลงทุนให้เร็วขึ้น (Front-Load) นอกจากนี้ สำหรับรัฐวิสาหกิจที่มีงบลงทุนขนาดใหญ่ที่มีผลการเบิกจ่ายลงทุนไม่เป็นไปตามเป้าหมาย สคร. ได้ประสานผ่านกรรมการผู้แทนกระทรวงการคลังในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ และผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ เพื่อขอให้เร่งรัดและผลักดันโครงการที่มีผลการเบิกจ่ายสะสมล่าช้าให้สามารถกลับมาเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมายในช่วงที่เหลือของปี เพื่อช่วยผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศได้อย่างยั่งยืนต่อไป
ด้านนายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการ สคร.ในฐานะโฆษก สคร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจสะสมถึงเดือน ก.ย.60 เท่ากับ 231,282 ล้านบาท หรือคิดเป็น 81% ของแผนการเบิกจ่ายลงทุนสะสม โดยรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินการตามปีงบประมาณ เบิกจ่ายได้ 95,384 ล้านบาท หรือคิดเป็น 66% ของแผนงบลงทุนทั้งปี และรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินการตามปีปฏิทิน เบิกจ่ายได้ 135,899 ล้านบาท หรือคิดเป็น 96% ของแผนการเบิกจ่ายลงทุนสะสม
สำหรับรัฐวิสาหกิจที่มีงบลงทุนขนาดใหญ่ และสามารถเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ได้แก่ รฟม., กคช., กทท., การประปานครหลวง (กปน.), โรงงานยาสูบ, ปตท. , กฟผ., กฟน. และ กสท.